อีก 5ปี รถยนต์ไร้คนขับจะกลายมาเป็นเทรนใหม่ของวงการยานยนต์
ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินเรื่องราวของการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกันมาบ้างแล้วนะคะ ซึ่งแนวคิดของนวัตกรรมนี้คือเพื่อลดข้อบกพร่องของมนุษย์และเอื้ออำนวยความสะดวกในการใช้รถใช้ถนน เช่น บางวันผู้ขับขี่อาจจะมีอาการง่วงนอน หรือป่วยทำให้การตัดสินใจในการเบรคหรือการขับขี่นั้นไม่เป็นไปตามที่ควร เป็นต้น
โดยการนำรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองเข้ามาใช้ก็จะเป็นการโปรแกรมรถให้สามารถขับตามแผนการเดินทางที่วางไว้โดยอาศัยการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์และเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อส่งเราไปยังที่หมายปลายทางได้ราวกับมีพนักงานขับรถส่วนตัว พร้อมกันนี้ยังคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย สามารถตัดสินใจต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วยังเป็นการช่วยเพิ่มความเท่าเทียมแก่ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างการให้โดยสารรถไปไหนต่อไหนได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
ล่าสุด คริส เอิร์มสัน ผู้อำนวยการโครงการยานยนต์ไร้คนขับของกูเกิ้ลก็ได้ออกมาประกาศในงาน TED 2015 แล้วว่าทีมพัฒนานั้นกำลังมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน พร้อมชี้ว่าภายในอีก 5 ปีจากนี้รถยนตร์ไร้คนขับจะเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ของยานยนตร์ ทั้งนี้เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาทางค่ายได้เปิดตัวโปรโตไทป์ของรถดังกล่าวออกมาสู่สายตาชาวโลกแล้วหลังจากที่ทำการพัฒนากันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2009 และผ่านการทดสอบวิ่งจริงบนท้องถนนมาแล้วกว่า 400,000 กิโลเมตร
แม้ key หลักของโจทย์ในการสร้างรถนี้ก็คือการลดปัจจจัยที่ควบคุมได้ยากที่สุดของการขับขี่หรือคือความผิดพลาดของผู้ขับเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกกว่า 1.2ล้านคนต่อปี แต่ทั้งนี้ก็ยังมีการตั้งคำถามเรื่องของกฎหมายที่จะมารองรับในกรณีที่เกิดความผิดพลาดขึ้นกับรถยนตร์ไร้คนขับ เช่น หากรถไปชนคนใครจะผิดจะถูก, เราจะไว้วางใจเรื่องการโดนแฮ็คได้มากแค่ไหน หรือมันอาจถูกไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการร้ายอย่างคาร์บอมบ์หรือไม่ เป็นต้น
Source: nbcnews