Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | December 3, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

Internet.org อินเตอร์เน็ท”ฟรี”ที่อาจต้องแลกกับข้อมูลส่วนตัว?!

Internet.org อินเตอร์เน็ท”ฟรี”ที่อาจต้องแลกกับข้อมูลส่วนตัว?!
kawizara

ก่อนหน้านี้ Facebook เปิดตัวโครงการ Internet.org โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะให้บริการอินเตอร์เนทฟรีแก่ผู้คนทั่วโลกเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ เข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม เพราะเชื่อว่าการเข้าถึงนี้จะเพิ่มโอกาสและช่วยลดช่องว่างทางสังคมได้

ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นให้บริการไปแล้วทั้งในแอฟริกาและในเอเชียทั้งประเทศอินเดียและอินโดเนียเซีย โดยให้บริการผ่านทั้งทางแอพพลิเคชั่นและหน้าเว็ปไซต์แต่ว่าจะจำกัดอยู่แค่ไม่กี่สิบบริการที่เป็นพันธมิตร เช่น Wikipedia, BBC News, Facebook และเว็ปไซต์ที่ให้บริการข่าวสารของแต่ละท้องถิ่น

ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งภาคประชาชนและหุ้นส่วนโปรเจ็กต์หลายๆ รายก็เริ่มถอนตัวจากโครงการเพราะมองว่าการทำแบบนี้ขัดต่อหลัก net neutrality ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องให้บริการด้วยความเป็นกลาง เท่าเทียม เนื่องจากการที่ผู้คนสามารถเข้าถึงเว็ปไซต์ที่อยู่ในโครงการได้ฟรีแต่ถ้าเป็นเว็ปอื่นๆ จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้ พร้อมทั้งยังมองว่า Facebook กำลังทำให้ประชาชนสับสนว่า “Facebook = Internet” อยู่หรือไม่ รวมถึงยังเกิดความสงสัยในวัตถุประสงค์ของทางค่ายว่าแค่ต้องการขยายฐานผู้ใช้งานพร้อมเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานทั่วโลกอยู่ภายใต้การสร้างภาพในการสร้างสรรค์สังคมหรือเปล่า

ล่าสุดทาง Facebook จึงได้ออกนโยบายปรับโครงการดังกล่าวให้เป็น platform เปิด ยอมให้บรรดาเว็ปไซต์และบริการต่างๆ สามารถเข้าร่วมได้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและครอบคลุมมากขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าหากยิ่งมีบริการต่างๆ มาเข้าร่วมมากเท่าไหร่ประชาชนก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น พร้อมกันนี้ทางค่ายยังบอกว่าการให้อินเตอร์เน็ทฟรีนั้นเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและไม่มีใครได้รายได้อะไรจากโครงการนี้ดังนั้น Internet.org จึงไม่ควรขัดต่อหลักการ net neutrality

แต่ทั้งนี้การเปิดให้บริษัทและนักพัฒนาที่สนใจสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้ก็จะเป็นไปภายใต้ข้อกำหนดของ Facebook ด้วยเช่นกัน เช่น การไม่ใช้ bandwidth หรือความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง อย่างเช่นพวกบริการ video, การรับ-ส่งไฟล์ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้ทุกคนเข้าใช้งานได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการห้ามใช้พวก JavaScript, Flash หรือ HTTPS ที่เป็นการเข้ารหัสและเป็นตัวระบุว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ นั้นปลอดภัยด้วย ซึ่งเมื่อไม่มี HTTPS แบบนี้ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก เพราะหลายๆ คนออกมาแสดงความกังวลว่าคนใช้งานอินเตอร์เน็ท “ฟรี” อาจจะต้องแลกกับข้อมูลต่างส่วนตัวหรือไม่

แม้งานนี้ Facebook จะออกนโยบายใหม่มาแก้เหตุการณ์ได้ทันท่วงทีและด้วยฐานข้อมูลของผู้ใช้กว่าพันล้านคนที่จะเข้าถึงโครงการนี้อาจทำให้มีคนสนใจเข้าร่วมมากขึ้นแต่กระนั้นทางค่ายเองก็ยังต้องออกมาตอบคำถามและข้อสงสัยต่างๆ ข้างต้นกันอีกยาวค่ะ

 

Source: techcrunch

comments