ยักษ์ใหญ่วงการไอทีลงนามช่วยกันลดโลกร้อน
เพราะโลกคือบ้านของทุกๆ คนและทุกๆ ภาคส่วนควรที่จะต้องออกมาช่วยกันดูแลโลกไม่ใช่แค่เพื่อความเป็นอยู่ของคนยุคเราแต่ยังรวมไปถึงการวางรากฐานที่ยั่งยืนให้กับยุคของลูกหลานด้วย ล่าสุดบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั้ง Apple, Microsoft, Google และบริษัทอื่นๆ ได้ออกมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อร่วมผลักดันการลงมติในการประชุมระดับโลกเรื่องภาวะโลกร้อนที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ที่กรุงปารีส ซึ่งนี่ก็จะรวมไปถึงเรื่องการใช้พลังงานทดแทน, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ภาวะโลกร้อนหรือภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจกซึ่งมีต้นเหตุจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์ และคลอโรฟลูโรคาร์บอน ที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะหลังๆ ทั้งจากการทำลายป่าไม้ การขนส่ง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ผลก็คือทำให้เกิดความผกผันของกระแสอากาศโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรและเกิดภัยพิบัติธรรมชาติตามมามากมายซึ่งกระทบต่อผู้คนทั่วโลก
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหารือถึงมาตรการเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิปดีบารัค โอบามาที่วางเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจกของอเมริกาลงไปอยู่ที่ 26% ภายในปี 2025 ทั้งนี้บริษัทต่างๆ จะร่วมกันลงนามใน “American Business Act on Climate pledge” เพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้องให้มีมาตรการจัดการเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งทุกฝ่ายก็หวังว่าเสียสะท้อนจากทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลกเหล่านี้จะช่วยน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการประชุมดังกล่าวได้
ซึ่งนอกจากการลงนามความร่วมมือแล้วเหล่าบริษัทไอทียังได้มีข้อตกลงร่วมกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนลงอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากถึง 140 ล้านดอลล่าร์ และจะมีพลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นอีกกว่า 1,600 เมกะวัตต์
อย่างบริษัท Apple เองก็กำลังดำเนินการเรื่องพลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานจากลม โดยจะนำพลังงานทดแทนมาใช้ถึง 280 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งได้ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงจากสิ่งอำนวยความสะดวกในองค์กรทั่วโลกทั้งจากศูนย์ข้อมูลต่างๆ ไปจนถึงร้านค้าของทางค่ายลง 48% ตั้งแต่ปี 2011 แล้ว
ด้าน Google เองก็เตรียมจะปรับไปใช้พลังงานทดแทนแบบ 100% พร้อมจะสั่งซื้อพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอีก 3เท่าตัวในปี 2025 นี้ และในปีนี้เองทาง Google ยังจะออกมาตรการลดการใช้น้ำไม่ว่าจะเป็นการหันไปปลูกพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก ไปจนถึงการใช้น้ำรีไซเคิล ซึ่งจะช่วยลดการใช้น้ำไปได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2013
นอกจากนี้เขายังจะเพิ่มเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสิ่งแวดล้อมให้รถ Google Street View ที่ไว้คอยเก็บภาพบนท้องถนนอีกด้วย ซึ่งเซ็นเซอร์นี้จะเก็บข้อมูลสภาพอากาศในสถานที่ต่างๆ และนำมาทำเป็นแผนที่แสดงคุณภาพอากาศที่บอกได้ทั้งค่าคาร์บอนไดออกไซด์, ก๊าซมีเทน, เขม่า และสารอื่น ๆ ในแต่ละจุดของเมืองซึ่งนอกจากจะเป็นอีกทางที่จะแจ้งเตือนและให้ข้อมูลกับประชาชนจะได้ตระหนักถึงสถาณการณ์รอบๆ ตัวแล้วข้อมูลเหล่านี้ยังเป็นตัวสะท้อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวและแก้ไขปัญหาด้านสภาพอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ส่วน Microsoft เองก็ตกลงที่จะหันมาใช้พลังงานทดแทนแบบ 100% ในศูนย์ข้อมูล, สำนักงาน ไปจนถึงห้องทดลองต่างๆ เช่นกัน
โลกเป็นของเราทุกคนนะคะดังนั้นไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่ๆ ที่จะต้องออกมาประกาศตัวช่วยกันลดโลกร้อน แต่เราทุกๆ คนก็ควรจะช่วยกันคนละไม้คนละมือด้วยเช่นกันนะคะ