หลังจากที่ช่วงนี้คนนิยมอ่านหนังสือออนไลน์กันมากขึ้นทั้งยังมีบริการในการอ่านพวก e-book ที่หลากหลายและถ้าจะว่าไปก็ถือว่าถูกกว่าการซื้อหนังสือใหม่สักเล่มอยู่ไม่ใช่น้อยแถมยังไม่เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ร้านหนังสือหลากร้านอย่างเช่นร้านในเครือ Waterstones ในอังกฤษได้ประกาศวางขาย Kindle Paperwhite หรือเครื่องอ่านหนังสือ e-book ร่วมกับทางเว็บไซต์ Amazon ตั้งแต่ช่วงปี 2013

แต่ว่าล่าสุดดูเหมือนว่า e-book อาจจะไม่ work เท่าที่ควรเพราะทาง Waterstones ออกมาประกาศเอา Kindle Paperwhite ออกจากชั้นวางบนร้านแล้วและเตรียมเอาหนังสือใหม่ๆ เข้ามาวางขายแทนหลังยอดขายเครื่องอ่าน e-book ไปได้ไม่ดีเท่าที่ควร

กระนั้นผู้แทนของทาง Amazon ก็ยังออกมายืนยันว่ากระแสและยอดขายองเครื่องตระกูล Kindle นั้นกำลังเติบโตขึ้นอน่างน่าพอใจ อย่างยอดขายของในอังกฤษเองก็เพิ่มขึ้นด้วย พร้อมกันนี้ทางค่ายจึงได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้มากขึ้นใน 2,500ร้านค้าทั่วประเทศเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าสามารถซื้อได้สะดวกขึ้นด้วย

แต่ดูเหมือนว่านี่อาจจะขัดแย้งกับคำพูดของ Douglas McCabe นักวิเคราะห์จาก Enders ที่ออกเผยว่าการที่ร้านหนังสือจะเลิกขาย Kindle ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร จริงๆ แล้วเครื่องอ่าน e-book อาจถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีตลาดผู้บริโภคที่มาไวไปไวที่สุดอย่างนึงเลย

ซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับสถิติจากทาง Nielsen Bookscan ที่เผยว่าช่วงไตรมาสแรกของปีนี้หนังสือแบบเป็นรูปเล่มนั้นมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.6% จากปีก่อน หรือเป็นเงินกว่า 1.13พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว ในทางกลับกันยอดขาย e-book ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ที่อเมริกาเองก็ลดลงไปถึง 10% แล้วเช่นกัน

 
Source : mashable