เราเคยพูดกันมาเยอะนะคะว่าจากสถิติแล้วในวงการไอทีปัจจุบันนั้นมีสัดส่วนของผู้หญิงอยู่น้อยมากอาจเป็นเพราะผู้หญิงส่วนมากยังไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโลกไอที อย่างพวกตัวละครเอกในเกมก็มักจะไม่ใช่ผู้หญิง เจ้าของกิจการในซิลิคอนวัลเลย์ก็มักจะเป็นผู้ชายเป็นต้น นอกจากนี้การที่สังคมสอนเด็กผู้หญิงให้เล่นตุ๊กตาและเด็กผู้ชายให้เล่นหุ่นยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งความคิดที่ฝังลึกจนส่งผลต่อแนวคิดและสัดส่วนของผู้หญิงในวงการไอทีด้วย กระนั้นในปัจจุบันก็ยังมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะให้ผู้หญิงได้ก้าวเข้ามาในวงการนี้เพิ่มมากขึ้น

ล่าสุดมีไอเดียที่จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์จะช่วยให้ผู้หญิงกันมาสนใจเรื่องไอทีโดยเฉพาะการเขียนโปรแกรมด้วยการเปิดแคมป์ Computer Science Connect สอนการเขียนแอพ พัฒนาโปรแกรมผ่าน virtual reality หรือเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนที่เราคุ้นๆ กันก็จะมีพวกแว่น Oculus Rift ที่เมื่อใส่แล้วจำทำให้ผู้ใช้งานเห็นภาพต่างๆ ในโปรแกรมได้สเสมือนเกิดขึ้นจริงๆ โดยเน้นให้ผู้สอนสร้างแรงจูงใจให้มีการกลับมาเข้าเรียนต่อเนื่อง เน้นให้ควารู้ควบคู่ความสนุก ไม่ยากต่อการเข้าใจ เปิดโอกาสให้ได้ใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และตรรกะไปพร้อมๆ กัน

ส่วนเหตุที่เลือก virtual reality มาใช้เป็นสื่อการสอนนั้นเพราะต้องการให้ผู้เรียนสามารถเห็นและเข้าใจสิ่งที่ตนทำหรือพัฒนาได้อย่างรอบด้านและสมจริง ทั้งนี้นักเรียนจะได้เข้าร่วมกับค่าย Unity 3D เพื่อสร้างเกมที่ใช้ร่วมกับแว่น AR อย่าง Oculus Rift ด้วย ซึ่งการสร้างเกมนั้นนอกจากจะเป็นเรื่องสนุก ได้ปลดปล่อยจินตนาการแล้วยังเหมาะกับผู้หญิงมากๆ เพราะผู้หญิงมีเรื่องที่จะเล่า มีมุมที่จะนำเสนอสิ่งต่างๆ อยู่แล้ว ตอนนี้พวกเธอแค่ยังไม่รู้ว่าจะสร้างตัวละครยังไง จะเขียนมันออกมาได้ยังไง ซึ่งคอร์สก็จะเข้ามาช่วยเสริมในด้านนี้

โดยแคมป์ Computer Science Connect นี้จะจัดขึ้น 2 อาทิตย์ในการปิดเทอมภาคฤดูร้อนตลอดสามปี โดยจะคัดนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเข้าร่วมครั้งละ 80คน คละกันทั้งหญิงและชาย ซึ่งนอกจากจะสอนพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้วยังได้ทำความรู้จักเกมแบบต่างๆ รวมไปถึงการสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นด้วยตัวเอง

และแม้แคมป์ดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ เพศใดเข้าร่วมก็ได้แต่ก็มีเป้าหมายเน้นไปที่กลุ่มผู้หญิงด้วยวัตถุปะสงค์ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าเรื่องของคอมพิวเตอร์และไอทีนั้นสามารถยึดโยงกับสิ่งต่างๆ ได้ การเขียนโปรแกรมนั้นสามารถเอาไปใช้ได้ในทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีววิทยาไปจนถึงดาราศาสตร์ รวมถึงแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจะเข้ามามีบทบาทในโลกเทคโนโลยีได้อย่างไร ซึ่งเชื่อว่าหากมีการผลักดันให้แคมป์รูปแบบนี้ประสบความสำเร็จเราก็น่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงในวงการเทคโนโลยีได้มากขึ้นค่ะ

 

Source: mic.com