นอกจากที่จะขึ้นชื่อด้านนวัตกรรมและการประดิษฐ์หุ่นยนต์แล้วญี่ปุ่นก็ยังเป็นประเทศที่ชึ้นชื่อเรื่องของข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ยากมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ข้อสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยของที่นี่ยากจนผู้ปกครองหลายๆ คนไม่คิดว่าลูกๆ จะสอบผ่าน และแม้ว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีข้อสอบที่ใช้ในการรับตรงเข้าเรียนของตัวเองแต่ที่ญี่ปุ่นเองก็มีข้อสอบกลางที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยกว่า 800 แห่งทั่วประเทศเช่นกัน

โดยช่วงตลอด 3ปีที่ผ่านมาสถาบันสารสนเทศแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ประดิษฐ์ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า Torobo-kun เพื่อเป็นตัวแทนเด็กๆ ในการทดลองทำข้อสอบเหล่านั้นดูและผลที่ได้นั้นพบว่า AI นั้นสามารถทำผลคะแนนออกมาได้ดีกว่านักเรียนจริงๆ เสียอีก

โดย Torobo-kun จะต้องทำข้อสอบทั้งหมด 8รายวิชา และมันจะทำความเข้าใจโจทย์ต่างๆ จากการสแกนพจนานุกรม, หนังสือเรียน และสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อหาคำตอบของโจทย์นั้นๆ ซึ่งจากสถิติที่ได้ Torobo-kun จะทำข้อสอบวิชาประวัติศาสตร์โลกได้ดีที่สุด ได้คะแนนราว 66.5 จาก 100 คะแนน ส่วนวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ทำคะแนนได้ดีรองลงมาที่ 60 คะแนน ซึ่งในแง่หนึ่งแสดงถึงธรรมชาติของรายวิชาที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนักจึงทำให้ AI สามารถค้นหาความเชื่อมโยงและข้อมูลต่างๆ ได้ดี

แต่ในทางกลับกันวิชาที่ต้องใช้ทักษะด้านภาษาอย่างภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ นั้นเจ้า Torobo-kun กลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำคะแนนได้ต่ำกว่าครึ่ง ซึ่งเมื่อเทียบดูแล้วในแง่หนึ่ง AI ก็ไม่ได้ต่างจากนักเรียนทั่วๆ ไปมักที่มีวิชาที่ถนัดและทำคะแนนออกมาได้ดีและในขณะเดียวกันก็จะมีบางวิชาที่อ่อนกว่าวิชาอื่นๆ ด้วย

แม้จะมีวิชาที่ทำคะแนนได้ไม่ดีนักยู่บ้างแต่เมื่อรวมผลคะแนนออกมาก็พบว่า Torobo-kun ทำคะแนนไปได้ถึง 511คะแนน ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่เด็กปกติทำได้ที่อยู่ราว 416.4 พอสมควร และด้วยคะแนนที่สูงขนาดนี้ทำให้หาก Torobo-kun เป็นคนจริงๆ มันจะสามารถเลือกเข้าเรียนต่อได้ใน 474 มหาวิทยาลัยถึงแห่งทั่วประเทศและจะมีโอกาสสอบติดมากถึง 80% เลยทีเดียว

แต่กระนั้นทางทีมผู้พัฒนายังก็ไม่พอใจกับผลที่ได้ในตอนนี้นักเพราะพวกเขามีจุดหมายที่จะพัฒนาให้  Torobo-kun ฉลาดขึ้นกว่านี้เพื่อทำคะแนนสอบให้มากพอกับคะแนนของนักเรียนที่จะได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโตเกียวมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อว่าข้อสอบยากที่สุดของญี่ปุ่นภายในปี 2021 ค่ะ

 
Source : rocketnews24