เมื่อช่วงงาน Mobile World Congress 2017 ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทางค่าย Nokia ได้เปิดตัวมือถือหลากหลายรุ่นพร้อมเตรียมวางจำหน่ายทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกเพราะหลังจากหลายหน้าหายตาไปนานก็ดูเหมือนตอนนี้ยักษ์ที่ล้มจะลุกขึ้นมาสานต่อความยิ่งใหญ่ของตัวเองอีกครั้งแล้ว แต่จะทำได้จริงไหม? งานนี้จะยากแค่ไหน? เดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดถึงกัน .. แต่ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักที่มาที่ไปของ Nokia กันก่อนดีกว่า

 

ถ้าพูดถึงชื่อ Nokia น้อยคนนะคะที่จะไม่รู้จัก เพราะถึงแม้ไม่เคยใช้ก็ต้องเคยผ่านหูมาบ้างกับค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ในยุค 90 ที่เริ่มหันมาจับตลาดมือถือตั้งแต่รุ่น Mobira Cityman 900 ช่วงปี 1987 มือถือใหญ่ๆ หนาๆ ที่เด็กๆ หลายๆ คนสมัยนี้อาจจะไม่เข้าใจว่าเรียกว่า “มือถือ” ได้ด้วยเหรอ? นับจากนั้น Nokia ก็เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงในตลาดมือถือมาต่อเนื่องจนได้เป็นแบรนด์เจ้าตลาดที่ครองใจผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนั้น แน่นอนค่ะ ถ้าพูดถึงชื่อนี้หลายๆ คนก็เชื่อมั่นในความทน มีรุ่นให้เลือกหลากหลายและมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ได้เรื่อยๆ อย่างกล้องบิดได้เพื่อตอบโจทย์ selfie ตั้งแต่เทรนนี้ยังไม่เกิดในพวกรุ่น Xpress Music หรือมือถือเล่นเกมจริงจังอย่าง N Gadge แถมยังมีระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง ‘ซิมเบี้ยน’ ที่ลงแอพลงเกมได้ แน่นอนค่ะว่าในสมัยนั้นถือว่าล้ำมาก

 

แต่สรรพสิ่งในโลกย่อมไม่จีรัง เพราะเมื่อ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรกในปี 2007 ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้มือถือด้วยหน้าจอทัชสกรีนและวิธีการใช้งานแบบใหม่.. แน่นอนว่าตอนนั้น Nokia ไม่ได้มอง Apple เป็นคู่แข่งด้วยซ้ำและนั่นก็ถือว่าเป็น move ที่ผิดมากๆ เพราะเมื่อผู้ใช้งานเปิดใจและยอมรับการใช้งานแบบใหม่ก็ตามมาด้วยการเกิดของ Android อีก แต่ตอนนั้น Nokia ก็ยังเลือกที่จะดันซิมเบี้ยนของตัวเองต่อไป การปรับตัวช้าในโลกที่หมุนไวนั้นน่ากลัว แต่ยังไม่เท่าที่เลือกฝ่ายผิดโดยการไปจับมือกับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ในการผลิต Window phone เพราะด้วยตัว Window phone เองก็มีปัญหาทั้งแอพที่น้อยและการใช้งานที่ไม่คล่องตัวจนไม่เกิดอย่างที่คาด สุดท้าย Nokia เลยต้องยอมขายทั้งหมดทั้งโรงงาน, สิทธิบัตร และงานวิจัยให้ทาง Microsoft ไป และ “Nokia” ก็ค่อยๆ หายไปในที่สุด

 

จนเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมาทาง Microsoft ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาใช้ชื่อแบรนด์ Nokia ทำสมาร์ทโฟนอีกต่อไป ทางบริษัท Nokia Technologies เลยตัดสินใจขายสิทธิ์การใช้ชื่อแบรนด์ Nokia และสิทธิบัตรบางส่วนสำหรับสมาร์ทโฟนให้กับบริษัทที่ชื่อว่า HMD Global และส่วนโรงงานผลิตให้กับ Foxconn ของไต้หวันไป

ซึ่ง HMD Global นั้นเป็นบริษัทที่ทีมผู้บริหารก็มาจากอดีตทีมโนเกียเก่าทั้งนั้น ผ่านช่วงรุ่งและร่วงมาพร้อมๆ กัน งานนี้เลยตั้งใจว่าจะนำพา Nokia กลับมายิ่งใหญ่เหมือนที่เคยโดยจะออกแบบมือถือ ทำตลาด เรียกศรัทธากลับมา และให้ Foxconn เป็นคนผลิตเครื่องให้ ซึ่งในการกลับมานี้ก็ไปร่วมมือกับ Google ทำมือถือและแท็บเล็ต Android แบบ 100% ซึ่งจากการเปิดขายรุ่นแรกอย่าง Nokia 6 ในจีนก็กระแสดีมากๆ ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น ส่วนในงาน MWC ก็เรียกความคึกคักจากคนทั่วโลกด้วยการกลับมาของ Nokia 3310 รุ่นยอดฮิตที่มารีเมคใหม่ด้วย

แต่แม้จะดูดีในช่วงนี้เพราะคนยังตื่นเต้นกับการกลับมาของ Nokia แต่ต้องอย่าลืมว่า Nokia ยุคใหม่นี้ได้

มาแค่ชื่อ Nokia เท่านั้น ส่วนที่เหลือยังต้องสร้างขึ้นมาใหม่เพราะพวกสิทธิบัตรนวัตกรรมอย่าง ClearBlack Display หรือ Pureview Camera นั้นยังไม่หมดสัญญากับไมโครซอฟต์ งานนี้จึงต้องคิดความว้าวแบบใหม่ๆ ขึ้นมา แถมเมื่อหายไปนานงานนี้ก็ยังต้องมาจัดการเรื่องคน ศูนย์บริการ ช่องทางการจัดจำหน่าย ไปยันเรื่องการทำการตลาดอีก ที่สำคัญการจะกลับมาด้วยระบบปฏิบัติการ Android ยังทำให้ Nokia ต้องไปท้าสู้กับค่ายเจ้าตลาดเก่าอีกมากมาย.. งานนี้หินพอตัวแต่ก็ใช้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเห็นโนเกียกลับมาครองบัลลังก์อีกครั้งนะคะ แต่ส่วนจะทำได้ดีขนาดไหนงานนี้คงต้องคอยดูความสามารถของเขาหละ! :]