[Advertorial] แค่มีแอพ MSIG SpeeDi ติดเครื่องไว้ก็อุ่นใจได้เวลารถโดนชน
เดี๋ยวนี้ใครบ้านไกลและไม่ได้อยู่ใกล้ BTS/MRT ก็คงหนีไม่พ้นการใช้รถยนต์ส่วนตัวเนาะ ซึ่งเก่งเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมยังเป็นคนที่ขับรถได้แย่พอตัวเลยเพราะเป็นคนไม่ค่อยระวังทำให้รถมักไปชนเข้ากับสรรพสิ่งเสมอ หลักๆ เลยก็เสาปูนหน้าปากซอยค่ะ ไม่รู้ทำไมเวลาจะถอยรถที่ไรมันต้องมาขวางทางเก่งทุกทีเลย =.= แต่เรื่องพวกนี้จะว่าไปก็ยังถือว่าเล็กน้อยเพราะเสาไม่หงุดหงิดใส่เราและเราก็ไม่ต้องรีบทำเรื่องเคลมด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้สิเก่งดันเจอเคสที่รถติดๆ อยู่ก็ดันไหลไปชนรถคันหน้าแบบไม่ตั้งใจไปซะงั้น! งานนี้เรื่องใหญ่เลยค่ะเพราะต้องรีบไปต่อกันทั้งเราทั้งเขาด้วย และด้วยความที่เราไม่ได้รถชนเป็นกิจวัตรเนาะ สตงสติหายหมด ลืมเบอร์ประกัน หาเลขที่ต้องใช้ก็ไม่เจอ ที่พีคกว่าคือพอโทรไปแจ้งเหตุแล้วทางประกันถามมาว่า “อยู่ตรงไหนคะ” คือ เส้นทางนี้เราไม่ได้มาบ่อย เราไม่รู้จักไง ที่นี่ที่ไหนจะบอกเขาว่าไงดี นี่ต้องเดือนร้อนแบกหน้าไปถามพี่คู่กรณีอีก T.T
วันนั้นกว่าจะผ่านมาได้… หมดเวลาไปครึ่งวัน…. แต่! ถ้ามีอุบัติเหตุแบบนั้นเกิดขึ้นอีกตอนนี้หละก็เก่งจะชิลมากเลยค่ะ ทำไมเหรอ? เพราะตอนนี้เขามีการแจ้งเคลมผ่านแอพพลิเคชั่นแล้วไงช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ แค่ทำประกันของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยแล้วโหลดแอพ MSIG SpeeDi มาติดมือถือไว้แค่นี้ก็อุ่นใจได้
เวลาเกิดอุบัติเหตุไปเฉี่ยว ไปชนใดๆ ถ้าไม่มีสติ ไม่รู้จะทำยังไงดีก็จงเปิดแอพ MSIG SpeeDi แล้วกดปุ่ม “แจ้งเคลมรถยนต์” ซึ่งปุ่มนี้เปรียบเสมือนปุ่ม S.O.S แล้วเลือกเลขทะเบียนรถคันที่เกิดเหตุ (แต่อันนี้ต้องลงทะเบียนไว้กันแอพก่อนนะคะ) เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ศูนย์เคลมฮอตไลน์โทรมาหาเราภายใน 60 วินาทีเพื่อคอนเฟิร์มรายละเอียดอุบัติเหตุว่าชนแบบไหน เราชนเขา เขาชนเรายังไง ซึ่งทางเขาจะมีข้อมมูลรายละเอียดกรมธรรม์และพิกัดที่อยู่ของเราที่ระบุผ่านทางสมาร์ทโฟนอยู่แล้วทำให้หมดปัญหาเรื่องการอธิบายและงมทางไปได้เลยหละ
พอเรียบร้อยแล้วเราก็จะได้ข้อความยืนยันการรับเรื่องและข้อความที่จะบอกว่าเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุคนไหนคือคนที่จะมาเคลมประกันให้เรา ตอนนี้เขาอยู่ส่วนไหนของเส้นทางแล้ว ใกล้ถึงเราหรือยัง รวมไปถึงเบอร์ที่จะติดต่อเขาเพื่อความอุ่นใจไปอีกขั้นด้วย
ระหว่างที่เรารอการเคลมประกันหลายๆ คนมักจะทำตัวไม่ถูก เครียด หงุดหงิดไปหมด จะให้รอนานๆ คงยิ่งเสียอารมณ์เนาะ .. เหมือนเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยเขาจะเข้าใจดี เลยใส่ฟีเจอร์ “ไลฟ์สไตล์” มาให้ในแอพเดียวกันนี้ด้วย งานนี้ระหว่างรออย่าให้เสียเวลาค่ะ เข้า Youtube, เปิดดิจิตอลทีวีดูรอไปได้เพลินๆ ไม่เกิน 30 นาทีเขาสัญญาว่าจะต้องมาหาเราให้ถึงที่!
ข้อดีอีกอย่างคือทางเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยเขาจะส่งข้อมูลทุกอย่างของเราไปให้กับเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุที่จะมาเคลมประกันให้เราแล้วเพราะงั้นเวลามาถึงก็จะไม่ต้องเสียเวลาในการสอบถามวุ่นวายอะไรอีก แค่ตรวจสอบอุบัติเหตุความเสียหายและถ่ายภาพแล้วให้เราเช็คความถูกต้อง ก่อนจะไปพิมพ์ใบเคลมมาให้เซ็นได้ตรงนั้นเลย ซึ่งเราก็ใช้แค่เจ้าเอกสารตัวนี้หละในการไปเคลมประกันต่อ แค่นี้ก็สามารถแยกย้ายกับคู่กรณีได้แล้วหละค่ะ ง่ายและไวดี :]
ส่วนใครที่ชอบชนเสาแบบเก่งเขาก็มีการ “แจ้งเคลมออนไลน์” ที่ให้เราสามารถแจ้งเหตุที่ไม่เร่งด่วนผ่านแอพพลิเคชั่นได้ทุกที่ตลอดเวลาที่เราว่าง แค่เข้าไปกรอกรายละเอียดพร้อมถ่ายรูปรอบบุบของรถที่เกิดขึ้นตรงส่วนต่างๆ แล้วส่งผ่านทางแอพแค่นั้นเอง
นอกจากนี้ในแอพพลิเคชั่นนี้ยังมีหน้าที่จะบอกรายละเอียดของอู่ซ่อมต่างๆ โดยเราสามารถเลือกได้จากอู่ที่อยู่ใกล้ๆ เราหรือค้นหาอู่ในพื้นที่ตามที่เราต้องการก็ได้เหมือนกัน รวมถึงหน้าสำหรับให้บริการการช่วยเหลือบนท้องถนนแบบอื่นๆ ไว้ให้เรียกใช้กรณีรถเสียด้วยทั้งบริการซ่อมรถฉุกเฉิน หรือถ้าซ่อมแล้วไม่จบก็ยังมีค่าที่พักให้ ส่วนถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินน้ำมันหมดเขาก็มีบริการเติมน้ำมันให้ฟรีด้วย และเมื่อจะต้องต่ออายุกรมธรรม์ก็ไม่ต้องยุ่งยากออกไปจากแอพเลยเพราะในหน้าแอพมีให้บริการอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ยุคดิจิตอลแล้วค่ะ ทุกอย่างต้องไว ต้องง่าย ต้องครบ จบในแอพเดียวแบบนี้หละ :]
สำหรับใครที่เป็นลูกค้าแล้วและอยากโหลดแอพ MSIG SpeeDi ไว้ใช้งานหรือใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปได้ที่หน้าเว็ปไซต์ของเขาที่ http://www.msig-thai.com/th/msigspeedi ได้เลยค่ะ