Google Home Mini ผู้ช่วยอัจฉริยะ ตัวเล็กแต่เก่งกาจ!
หลายๆ คนน่าจะรู้จัก Google Home ผู้ช่วยอัจฉริยะในบ้านกันมาบ้างแล้วเนาะ แต่ว่าเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาทาง Google ได้เปิดตัวรุ่นเล็กอย่าง Google Home Mini และรุ่นใหญ่ที่เด่นลำโพงและเรื่องพลังเสียงอย่าง Home Max มาเติมเต็มครอบครัว Home ให้สมบูรณ์แบบตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลายได้ครบ~
และแน่นอนว่าวันนี้กวิสราก็มี Home รุ่นใหม่มารีวิววววว!!!!!! Home Max!!!!
บ้าหราาาาา! นั่นมันราคาเป็นหมื่น! มีตังที่ไหนเล่า … งั้นรีวิว Google Home Mini ไปก่อนแล้วกัลล! เนาะ 😛 (ก็ความสามารถพื้นฐานนางไม่ต่างกันนี่นา)
เอาหละตามธรรมเนียมเราต้องแกะกล่องกันก่อนเนาะ (ใช่สิ ไม่แกะแล้วจะเจอของข้างในได้ไง!!!)
ภายในกล่องสี่เหลี่ยมนี้เราเจอ Google Home Mini, อะแดปเตอร์จ่ายไฟ, คู่มือการใช้งาน และหมดแล้ว! มีแค่นี้หละ! ทำกล่องมาใหญ่ให้เราเข้าในผิดว่าจะมีของอะไรมาให้มากมายไปงั้นสินะ …
เจ้า Home Mini เป็นกล้อนกลมๆ แบนๆ ขนาดไล่ๆ กับซาลาเปา 7-11 เส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 10 ซม. ด้านบนบุด้วยผ้าตามคอนเซ็ปต์แบบเดียวกับ Google Home รุ่นก่อน ซึ่งเจ้า Mini มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีชอล์ก สีถ่าน สีส้มอมชมพู (และแน่นอนว่าผู้หญิงแบบกวิสราก็ต้องเลือกที่ถ่านหรือสีดำมาตามระเบียบ~)
ที่ด้านบนจะมีไฟ LED กลมๆ 4ปุ่ม ไว้แสดงผลการทำงาน จะติดเวลารับคำสั่งหรือเวลาสั่งเพิ่ม-ลดเสียง แต่ว่านอกจากการสั่งด้วยเสียงแล้วเรายังสามารถแตะเพื่อควบคุมเจ้า Mini ได้โดยตรงจากตรงด้วยนะ แตะด้านซ้ายเพื่อลดหรือแตะด้านขวาเพื่อเพิ่มเสียง ส่วนลำโพงที่ให้มาก็เล่นเสียงได้รอบทิศทาง 360 องศาโดยใช้ตัวขับเสียงขนาด 40มม. ซึ่งให้เสียงดังกว่าที่คาดไว้เยอะเลย ถึงจะจิ๋วแต่เจ๋งอ่ะ!
ด้านล่างเป็นพลาสติกสัมผัสลื่นๆ มีปุ่มเปิด-ปิดไมค์สำหรับเวลาที่ไม่อยากให้มันแอบฟังเรา, ช่องเสียบ Micro USB เพื่อจ่ายไฟ (อันนี้ต้องต่อไฟบ้านไว้ตลอดนะครัช) และที่ใต้เครื่องจะมีปุ่มเล็กๆ สำหรับการกดค้างเพื่อ Factory Reset แค่นี้เลย #จบ
แต่ว่าการใช้งาน Google Home เนี่ยเราต้องไปตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชั่น Home ซึ่งเป็นแอปเดียวกับเวลาที่เราจะใช้ ChromeCast นั่นหละ
เมื่อเราเสียบปลั๊ก Home Mini > เปิดเข้าแอป Home และเปิด location บนมือถือแล้วแล้วมันจะสแกนหาอุปกรณ์ที่อยู่ในระยะพร้อมเด้งมาเลยว่ามี Mini อยู่ในรัศมีนะ! จากนั้นจะมีเสียงจาก Home mini มาให้เรายืนยันว่าได้ยินใช่ไหม เครื่องนี้นะ ถูกต้องนะ! จะเอาเครื่องวางไว้ห้องไหน? ก่อนจะถือวิสาสะดึงรหัสผ่าน Wi-Fi บ้านเราจากมือถือไปใช้คอนเนคเลย! ซึ่งมันก็สะดวกดีแหละ แฮะๆ
สเต็ปต่อไปคือมันจะให้เราลองพูด “OK, Google” / “Hay, Google” เพื่อระบุว่านี่คือเสียงเรานะ! เพราะว่าเจ้า Home Mini เนี่ยสามารถใช้งานร่วมกันได้หลายคน มันเลยต้องแยกเสียงของแต่ละคนให้ออกนั่นเองนาจา แต่! อะเกน ถ้าเราเคยใช้ Assistaant อยู่แล้ว เคยยืนยันเสียงไปแล้วมันก็จะไปดึงเสียงตรงนั้นมาเลย จากนั้นมันจะบอกที่อยู่ของเราจากพิกัดบน Google Maps และสรุปข้อมูลมาให้แค่นี้เอง #จบ
ที่นี้มาดูความสามารถของเจ้า Home Mini กันบ้างนะ!
ต้องบอกว่าโดยรวมแล้วเจ้าตัวนี้ก็คือ Google Assistant แบบเดียวกับที่มีบนมือถือเรานั่นหละ แต่ด้วยความที่มันวางในบ้านและเปิดอยู่ตลอดเวลามันเลยสามารถรับคำสั่งเราและช่วยตอบคำถามรวมถึงเปิดนั่นปิดนี่ได้โดยที่เราไม่ต้องลุกไปทำเอง ซึ่งก็ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องการถามเรื่องทั่วไป อะไรที่ search Google ได้ก็ถามเจ้า Mini ได้หมด! การบอกผลกีฬา อัพเดตข่าว ถามสภาพอากาศ ตั้งปลุก หาสถานที่ใกล้ๆ ตำแหน่งที่เราอยู่ ไปยันการแปลภาษาก็ทำได้
นอกจากนี้เรายังสามารถสั่งให้มันเล่นเพลงผ่าน Mini ได้เลยจะเปิด Youtube จาก Spotify ก็จัดไปหรือ ถ้าใครใช้ Google ChromeCast ต่อกับทีวีไว้ก็สามารถสั่งให้ไปเปิดบนจอทีวีรวมถึงสั่งเล่น Netflix ได้ด้วย สะดวกดี โดยมันจะถามว่าจะให้เล่นบนทีวีผ่าน ChromeCast เลยไหม ถ้าใช่ก็แค่ตอบตกลง แค่นั้นเองหรือถ้าเราเชื่อมต่อไว้หลายๆ อุปกรณ์ เช่นต่อกับลำโพงด้วย ต่อกับทีวีด้วยก็ให้พูดชื่อต่อท้ายว่าเราต้องการให้มันเล่นเนื้อหานี้ที่ไหนต่อท้าย เช่น “Hey Google, play ED Sheran on Sony” หรือ “Hay Google, watch Stranger Things from Netflix on CromeCast”
Home Mini ยังสามารถช่วยให้เรามี smart home ได้ง่ายๆ ด้วยการทำหน้าที่เป็น hub ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ อย่างพวกหลอดไฟหรือที่ควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ โดยเราสามารถเลือก Add Device เพิ่มที่หน้า Home Control แล้วกด + เพิ่มจากชื่อแบรนด์ได้เยย แค่นี้ก็สามารถสั่งเปิด-ปิด ดิมไฟได้แค่สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Home Mini แบบเกร๋ๆ
แต่! ไม่ใช่แค่เรื่องเป็นการเป็นงานนะเพราะเรื่องเล่นๆ Home ก็ทำได้ ให้มาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาก็ได้ จะเล่นเกมทายใจ, เกมถามตอบคำถามความรู้รอบตัว, โยนเหรียญ, เล่าเรื่องตลก หรือจะถามคำถามกวนๆ อย่าง คิดว่า Siri เป็นยังไง หรือลองเรียกมันด้วยคำว่า Hay Siri! ดูก็ได้!
และความดีงามคือเมื่อ Home ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานในบ้าน เป็นของทุกคนในครอบครัว เพราะงั้นมันจึงมีความฉลาดในการแยกแยะเสียงของแต่ละคนในบ้านเพื่อแยกคำตอบให้ตรงกับคำถามได้ เช่นถ้าเราถามถึงตารางงาน “What’s on my Calendar?” มันก็จะเอาตารางของเรามาบอกไม่ใช่เอาของพ่อแม่เรามา หรือถ้าสั่งให้ “Call mom” มันก็จะโทรหาแม่เราไม่ใช่คุณยายเป็นต้น อันนี้เก่งว่าเจ๋งดีอ่ะ
โดยรวมเก่งว่า Google Home Mini เจ๋งพอตัวเลยนะ แต่น่าเสียดายที่บางฟีเจอร์ยังไม่สามารถใช้ในบ้านเราได้อย่างเช่นฟีเจอร์การสั่งซื้อของที่เราสามารถผูกบัตรเครดิตแล้วใช้เสียงสั่งซื้อของใช้ในบ้านได้เลย รวมถึง ตัว Assistant บน Home เองก็ยังไม่รองรับการสั่งงานไทยเลยอาจจะยังไม่ตอบโจทย์คนไทยนัก แต่ถ้าไม่ติดปัญหาด้านกำแพงภาษาด้วยราคาแค่ $49 หรือราวพันกว่าๆ เก่งว่าก็น่าจะซื้อมาใช้ในบ้านอยู่นะ ล้ำดีแถมช่วยให้บ้าน smart ได้ในราคาไม่แพงด้วยค่ะ :]