Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | November 21, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

อยากรู้ว่าฝุ่นเยอะแค่ไหน Xiaomi PM 2.5 Air Detector บอกได้

kawizara

เมื่อช่วงต้นปีเราเห็นฟ้าไม่มีแดดเลย เราก็หลงดีใจนึกว่ามีหมอกลงกรุงเทพจ้าาา ไปเริ่งร่าใช้ชีวิตนอกบ้านอย่างเต็มที่จ้าาาา สรุปกลับมาป่วยจ้าาา หายใจไม่ออก แสบจมูก เจ็บคอยาวๆ ไป ซึ่งก็เพิ่งมารู้หลังจากนั้นว่าที่เห็นนั้นเป็นเจ้าฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (รู้จักกันดีในนาม pm 2.5 นั่นหละ) ซึ่งฝุ่นพวกนี้อันตรายมากเพราะมันเล็กกกจนขนตะมูกเรากรองให้ไม่ได้เลยสามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้ตรงๆ แถมยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย! และเมื่อกรุงเทพของเรามีค่าเกินค่ามาตรฐานไปโลดดแบบนี้จะใช้แค่หน้ากาก N 95 อย่างเดียวคงไม่พอ เราเลยหาทางรับมือส่วนตัวเพราะอยากรู้ด้วยว่าพื้นที่ที่เราไปใช้ชีวิตนั้นสถาณการณ์ฝุ่นเป็นยังไงเลยไปลองใช้เจ้า Xiaomi PM 2.5 Air Detector ดู และจิขอมารีวิวใน #เก่งแกะกล่อง ด้วยเลย!

เอาหละออเจ้า แม้ว่าตัวเครื่องวัดสภาพฝุ่นละอองของเรานี้จะเป็นแบรนด์ Xiaomi ที่มีเปิดร้านในสยามประเทศแล้วก็ตามแต่!!! ยังไม่มีตัว PM 2.5 Air Detector มาขายจ้าาาา ด้วยเหตุนี้เลยต้องสั่งผ่านเน็ตมาเอาเองนาจาาา ซึ่งในบ้านเรามีคนเอามาขายอยู่บ้างแต่ราคาก็แพงและงงพอตัว มีตั้งแต่สองพันนิดๆ ไปถึงสี่พัน เราจึงไปสั่งมาจาก aliexpress ได้มาที่ราคาอยู่ราวๆ 1,800 บาทเอง~

เอาหละตามธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามของเรา เรามาแกะกล่องเจ้าตัวนี้กันก่อนเลยค่าาาาาา!

ภายในกล่องเหลี่ยมๆ เล็กๆ นี้ก็มีตัวเครื่อง PM 2.5 Air Detector ที่ทำจากพลาสติกเรียบลื่นสีขาวทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาด 2.5×2.5 นิ้ว หนาราวนิ้วครึ่ง วางตัวอยู่พร้อมคู่มือ … #จบ


มาดูที่ตัวเครื่องกันค่ะ! ที่ด้านหน้าบนเป็นปุ่มควบคุมเดียวบนตัวเลย กดเพื่อเปิดปิดและจิ้มเพื่อปรับโหมดการแสดงผลได้ ซึ่งค่าทั้งหมดก็จะมาโชว์อยู่บนหน้าจอแบบคลีนๆ หน้าแรกจะมีแค่วัน เวลา สถานะแบตเตอรี่เท่านั้น ส่วนอีกหน้านึงพอกดปุ๊บมันก็จะทำการวัดค่าฝุ่นละอองในอากาศ ณ ตอนนั้นให้ปั๊บพร้อมมีบอกสถานะการเชื่อต่อ WiFi ให้

ที่ด้านหลังจะมีพอร์ทเสียบสายชาร์จ, ข้างๆ กันจะมีรูเล็กๆ สำหรับการรีเซ็ต จะ pair เครื่องใหม่ก็ใช้เข็มจิ้มซิมจิ้มเข้าไปเลย แค่นั้นค่ะ!

ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นมาเป็นช่องสำหรับรับอากาศเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งด้านในก็จะมีแสงเลเซอร์อยู่ พอแสงฉายผ่านฝุ่นจะเกิดการกระเจิงแสงที่ต่างกันตามขนาดของฝุ่นก่อนที่จะวัดความยาวของคลื่นแสงที่เกิดขึ้นแล้วเอามาแปลงผลค่าฝุ่นละอองให้เรานั่นเองงงง #ดูดีแลดูมีวิชาการ

แต่ว่าแน่นอนค่ะว่า gadget พวกนี้มัน smart มันสามารถติดตามสถานะค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ที่เราอยู่อย่างต่อเนื่องพร้อมแสดงปลแบบเสร็จสรรพได้ถ้าเราใช้งานร่วมกับแอป! ซึ่งแอปอันนี้ก็คือ Mi Home ที่ใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ในบ้านอื่นๆ ของทางค่ายเขา แต่ว่าใครที่เคยเล่นแล้วอาจจะต้องตั้งค่าใหม่สักนิสเพราะอย่างที่บอกนะว่ายังไม่ได้มีขายเป็นทางการในบ้านเรา เวลาเลือก pair เนี่ยเลยจะต้องเลือก login เป็น “mainland chaina” นะคะ ไม่งั้นจะไม่เห็นว่ามีเจ้าตัว PM 2.5 Air Detector ให้เลือก pair ซึ่งในระหว่างขั้นตอนต่างๆ นั้นจะเป็นภาษาอังกฤษทำตามๆ ไปได้อยู่
พอแอดปุ๊บเราก็เจอกับความว้าวสุด smart ในหน้าแรกของแอปทันที นี่มันสั่งงานด้วยเสียงได้หรือนี่!!! อ่ะๆ ลองๆ โอ๊ะ! สั่งเป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยยยย!!!

แต่ไม่ว่าจะลองไปยังไง ไม่ว่าเราจะใช้สำเนียงอังกฤษ ไทย จีนแบบไหนมันก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ ส่งภาษาจีนกลับมาใส่ซึ่งแปลึวามจาก Google Translate ได้ว่า … มันไม่เข้าใจที่เราสั่ง! #จบ


ส่วนในหน้าของตัว PM 2.5 Air Detector เองเนี่ยเวลาที่เราเข้ามาก็จะมีการแสดงค่า PM 2.5 ครั้งล่าสุดที่วัดพร้อมมีประเมินสภาพอากาศไว้ให้ และล่างๆ ลงมายังมีกราฟบอกสภาพฝถ่นละอองในอากาศแต่ละครั้งด้วย โดยในแอปนี้จะแบ่งค่าต่างจากของที่บ้านเราสักหน่อยนะคะ เพราะว่าของบ้านเราเนี่ยเกณฑ์มาตรฐานคือต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ว่าของแอปนี้จะยิมให้ได้ถึง 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรถึงจะเข้าขั้นการเฝ้าระวัง แต่ถ้าอันตรายจริงๆ เนี่ยเขาให้สูงไปถึง 150!!!!! ขุ่นพระ!! ที่กรุงเทพเจอกันไปไม่ถึงร้อยนี่ยังจะตายแล้วเลยคร่ะ! (หรือคนจีนเขามีภูมิต้านทานดีกว่าเรา?!)

ส่วนด้านล่างๆ นั้นก็จะมีการตั้งค่าอื่นๆ เช่นการแสดงเวลาบนตัวเครื่อง การเชื่อมเจ้า PM 2.5 Air Detector กับเครื่องฟอกอากาศของทางค่าย ซึ่งอันนี้เนี่ยถ้าเชื่อมต่อแล้วเวลาที่ค่าฝุ่นเดินตามที่เรากำหลดไว้มันก็จะไปเปิดเครื่องฟอกอากาศให้เองเลยง่ายดี แต่! เราต้องมีเครื่องฟอกอากาศก่อนซึ่งเดี๋ยวอันนี้ขอติดไว้ในรีวิวถัดไปนาจา! :3

โดยรวมๆ แล้วเก่งชอบเจ้าตัวนี้นะเพราะว่ามันสามารถช่วยลดความกังวลใจไปได้เยอะเเลยค่ะ รวมถึงถ้าเรารู้ว่าตรงไหนที่ค่าฝุ่นละอองที่จะเป็นอันตรายมีเยอะเราก็จะได้ไหวตัวทันและหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งถ้าเกิดว่าเทียบกับแอปวัดคุณภาพอากาศแล้วเจ้าตัวนี้จะละเอียดดว่าเพราะบอกเจาะจง ณ ที่ที่เราอยู่ได้แบบ real time เลย ต่างจากข้อมูลในแอปที่เป็นข้อมูลโดยรวมของพื้นที่บริเวณหว้างๆ และมีข้อมูลที่ไม่ครอบคลุมด้วยค่ะ ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่เจ้าตัวนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ราว 3ชั่วโมง แม้อาจจะดูว่าน้อยแต่เอาจริงๆ มันพอนะเพราะว่าในหนึ่งวันเราไม่ได้จะมานั่งวัดนั่งเช็คกันตลอดเนาะ นานๆ กดทีไม่ได้มีปัญหาอะไร

แต่ว่าก็จะมีข้อเสียเรื่องของการไม่มีหน้าร้านวางขายเลยอาจจะติดเรื่องของการรับประกันตามไปด้วย รวมถึงเรื่องของการใช้งานที่จะต้องเข้าไปตั้งค่าเป็นประเทศจีนและมีภาษาจีนโผล่มาให้สับสนชีวิตเป็นช่วงๆ เนี่ยหละ เพราะงั้นก่อนตัดสินใจซื้อก็ลองดูเงื่อนไขพวกนี้ก่อนนะคะ :]

 

comments