Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | November 21, 2024

Scroll to top

Top

No Comments

มือถือจะมีหลายกล้องทำไม แล้วมันดียังไงนะ?

มือถือจะมีหลายกล้องทำไม แล้วมันดียังไงนะ?
kawizara

เมื่อช่วงปีที่แล้วหนึ่งในสิ่ง ”ว้าว” ของวงการมือถือก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้องหลังที่มีให้มามากกว่า 2 ตัวนี่หละค่ะ ซึ่งเมื่อเริ่มมีค่ายจุดกระแสอย่าง Huawei ที่ร่วมพัฒนากับค่ายผู้ผลิตกล้องชื่อดังอย่าง Leica ส่งกล้องหลัง 3ตัวมาให้ได้ใช้กันในรุ่น P20 Pro ก็กลายเป็นเทรนที่ค่ายอื่นๆ จะร่วมแจมกัน แต่ว่าหลายๆ คนก็เกิดความสงสัยว่า เอ๊ะ? เทรนนี้มันมายังไง แล้วทำไมมือถือเราจะต้องมีหลายๆ กล้องด้วย? … ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยววันนี้เรามาย้อนความหลังกันสักนิดว่าเราเริ่มมีกล้องหลังมากกว่า 1ตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

จริงๆ กล้องมือถือเนี่ยอยู่กับเรามาช้านานตั้งแต่สมัยมือถือยังเป็นปุ่มกดอยู่เลยนะคะ แล้วเราก็คุ้นชินกับการใช้มือถือกล้องเดี่ยวมาตลอด ความเปลี่ยนแปลงของกล้องก็จะมีแค่การเเพิ่มพิกเซลให้มากขึ้น ใช้เซ็นเซอร์ที่ดีขึ้นเพื่อให้เราถ่ายรูปได้สวยขึ้น แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่งมันก็ยากที่จะสร้างความแตกต่างได้เพราะต่างค่ายก็อัดสเปคกล้องมาให้จนแน่นแล้ว

เมื่อกล้องเดี่ยวเองมีข้อจำกัดอยู่ประกอบกับช่วงยุคที่เราเริ่มเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้นและง่ายขึ้น กระแสโซเชียลเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราและเรื่องของการแชะและแชร์กลายเป็นชีวิตของผู้คนเลยมีความพยายามที่จะเพิ่มขีดความสามารถจากกล้องเลนส์หลักให้มีลูกเล่นที่มากกว่าเดิมเพื่อตอบโจทย์การใช้งานกล้องที่มากกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้มากขึ้นเท่านั้นนะแต่ว่านี่ยังเป็นการเสริมจุดขายให้สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ อีกด้วย นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกใช้เลนส์ที่ 2 เข้ามาช่วยเสริมลูกเล่นและฟีเจอร์การใช้งาน แต่ว่าเลนส์เสริมของแต่ละแบรนด์นั้นก็ไม่เหมือนกัน บางค่ายเน้นเลนส์เสริมที่จะมาช่วยวัดระยะวัตถุช่วยในการทำภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ยางค่ายเลือกใช้เลนส์ซูมเพื่อให้สามารถถ่ายวัตถุที่อยู่ไหลออกไปได้โดยไม่เสียความละเอียดของภาพ

และถ้าจะย้อนกลับไปกล้องคู่รุ่นแรกนั้นเกิดขึ้นช่วงปี 2011 เป็นปีที่ทาง HTC และ LG เปิดตัวสมาร์ทโฟนหน้าจอสามมิติ ซึ่งมือถือเหล่านี้ไม่ใช่แค่รองรับการดูเนื้อหาแบบ 3D เท่านั้นแต่ยังมาพร้อมกล้องหลังคู่สำหรับกาสร้างภาพถ่ายแบบ 3 มิติด้วย แม้จะเป็นลูกเล่นที่โดดเด่นและแปลกใหม่แต่ยังติดเรื่องข้อจำกัดในการใช้งานและราคาทำให้สุดท้ายกระแสนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรและเงียบหายไป

จนมาถึงตอนปี 2016 ที่กล้องคู่เริ่มกลับมาฮิตกันอย่างจริงจัง ซึ่งช่วงนั้นก็มีทั้ง LG G5 ที่มาพร้อมเลนส์ที่สองเป็นเลนส์ไวด์ให้เราถ่ายภาพในมุมมองที่กว้างขึ้น , Huawei ที่ไปจับมือกับ Leica มาพร้อมเซนเซอร์ขาวดำที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์สี พร้อมทั้งกล้องตัวที่สองยังมาช่วยเก็บความลึกของภาพทำหน้าชัดหลังเบลอได้ จนเทรนของกล้องคู่เริ่มได้รับความนิยมและกลายเป็นมาตรฐานของการใช้งานไปแล้ว (เดี๋ยวนี้มือถือราคา 3พันยังต้องมาพร้อมกล้องคู่กันเลยจริงไหมคะ?)

จนกระทั่งช่วงปีที่แล้ว Huawei สร้างความฮือฮาอีกครั้งในงานเปิดตัว Huawei P20 Pro และ Mate RS กับมือถือ 3กล้องหลังรุ่นแรก มาพร้อมเลนส์ Telephoto สำหรับใช้ถ่ายวัตถุระยะไกลๆ และช่วยในการวัดระยะทำหน้าชัดหลังเบลอ, เลนส์ RGB สำหรับการถ่ายภาพปกติ และ เลนส์ Monochrom สำหรับการถ่ายภาพขาวดำ

หลังจากนั้น 3กล้องหลังก็เกิดขึ้นมากมายในมือถือหลายรุ่นจนกลายเป็นเทรนของปีที่ผ่านมา แต่ส่วนมากกจะอยู่ในรุ่นเรือธงที่ราคาสูงหน่อย จนกระทั่งช่วงปลายปีที่แล้วที่ 3กล้องหลังเริ่มลงมาอยู่ในมือถือช่วงราคา 10,000บาท อย่าง Samsung Galaxy A7 ให้จับต้องได้ง่ายขึ้น แต่ว่า 3กล้องในรุ่นนี้ก็จะต่างออกไปอีกนะ เพราะว่าไม่ได้เน้นเลนส์ขาวดำ แต่ว่าเน้นเลนส์ที่ระยะต่างกันเพื่อให้ใช้ถ่ายภาพได้ในมุมมองที่หลากหลายสำหรับการเล่าเรื่องราวผ่านภาพ ซึ่งนอกจากเลนส์หลักแล้วมันยังมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง 120 องศาเพื่อช่วยเก็บบรรยากาศของภาพ และเลนส์วัดระยะสำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วย

แต่หลังจากการเปิดตัว A7 ได้ไม่นานซัมซุงก็ส่งรุ่นพี่อย่าง Galaxy A9 ออกมาสร้างเสียงฮือฮาอีกครั้งกับการเป็นมือถือ 4กล้องหลังตัวแรกของโลกที่เน้นเรื่องมุมมองการถ่ายภาพและบอกเล่าเรื่งราว โดยนอกจากได้ความสามารถจาก 3เลนส์ของรุ่นน้องแล้วในรุ่นนี้ยังได้เลนส์ซูมเพื่อช่วยถ้ายวัตถุที่อยู่ไกลออกไปด้วย แน่นอนหละว่ายิ่งมากก็ยิ่งว้าว เพราะว่านอกจาก 4กล้องหลังที่เราคิดว่าเยอะแล้วเนี่ยยังน้อยไปเมื่อเทียบกับกล้องที่ทาง LG เขาไปจดสิทธิบัตรไว้ เพราะเป็นไปได้ว่า LG อาจจะกำลังซุ่มทำมือถือ 16กล้องหลังอยู่ ซึ่งเขาจะอาศัยความเยอะของกล้องมาช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของภาพให้สามารถปรับความกว้างและองศาของกล้องได้เพื่อให้ได้ภาพที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเองค่ะ

รู้ที่มาที่ไปและความจำเป็นของหลายกล้องหลังพร้อมเทรนของกล้องหลังที่กำลังจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้แล้วทุกคนคิดว่ายังไงกันบ้างคะ? ในปีนี้มือถือเราควรจะมีสักกี่กล้องหลังกันดี? :]

 

comments