เมื่อก่อนถ้าเราพูดถึงเทคโนโลยีใกล้ๆ ตัว ใครๆ ก็คงคิดถึงคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ซึ่งบิล เกตส์เองก็เคยบอกไว้ว่าวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ตั้งแต่ปี 1975 นั้นก็คือการให้ทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานกัน เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนั้นก็กลายเป็นจริงเพราะด้วยวิธีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีไปอย่างรวดเร็วและราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทำให้ปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครๆ ก็มีคอมพิวเตอร์พกติดตัวกันทั้งนั้น ต่างไปแค่ว่านิยาม “คอมพิวเตอร์” ของคนในยุคนี้อาจจะเปลี่ยนไปสักหน่อยเพราะเดี๋ยวนี้เราอาจเทียบสามาร์ทโฟนได้กับคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ เพราะสมาร์ทโฟนถูกพัฒนามาให้ฉลาดมากขึ้น มีสามารถที่หลากหลายขึ้นจนใช้งานได้ไม่แพ้คอมพิวเตอร์ ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องงานและการใช้ส่วนตัวจึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ก็มีไว้ครอบครอง และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกถ้าหากยอดขายของสมาร์ทโฟนจะพุ่งสูงแซงยอดขายของแล็ปท็อปด้วยเช่นกัน

จากผลการสำรวจในเอเชียระหว่างปี 2010-2014 เองก็พบว่าความนิยมของแล็ปท็อปนั้นลดลงแต่กลับถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยช่วง 4 ปีที่ผ่านมายอดขายสมาร์ทโฟนโตขึ้นถึง 1,220% หรือขายได้กว่า 13,331,017 ยูนิตเลยทีเดียว ในขณะที่ยอดขายของ PC และแล็ปท็อปกลับเพิ่มขึ้นเพียง 28%  เท่านั้น พร้อมกันนี้ผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในไทยก็พบว่าใช้สมาร์ทโฟนกันมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 70% ส่วนแล็ปท็อปตัวนั้นอยูที่สัดส่วนเพียง 13%

และเมื่อเรามีอุปกรณ์ที่พกติดตัวได้ ใช้งานง่ายประกอบกับอินเตอร์เน็ทที่ราคาถูกลงและครอบคลุมมากขึ้นก็จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อัตราการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ทจากสมาร์ทโฟนจะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับผลสำรวจจาก Ofcom ของอังกฤษที่เผยว่าในประเทศอังกฤษมีจำนวนผู้ที่เข้าใช้งานบนโลกออนไลน์จากบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนี้มีสถิติการใช้งานกว่า 20ช.ม. ต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ว่าชาวอังกฤษถึง 33% เผยว่าใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์ในการเชื่อมอินเตอร์เน็ทราว 2ชม. ต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่การเข้าหน้าเว็บไซต์ การใช้งานโซเชียลมีเดียไปจนถึงการซื้อขายและการทำธุรกรรมออนไลน์ ขณะที่แล็ปท็อปในได้รับความนิยมอยู่ที่ 30%, แท็บเล็ตอยู่ที่ 19% เพิ่มขึ้นจากช่วงปีที่แล้ว 4% ส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะนั้นได้รับความนิยมลดลง 6% เหลือ 14 % ซึ่งอัตราส่วนเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงนอย่างมากตั้งแต่ช่วงปี 2014 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีคน เริ่มหันมาใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2012 เป็น 66% และแม้กลุ่มคนที่มีสมาร์ทโฟนไว้ในครอบครองมากที่สุดถึง 90% คือคนช่วงอายุระหว่าง 16-24ปี แต่กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 55-60ปี ก็มีสถิติในการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมาถึง 50% เมื่อเทียบจากปี 2012 ซึ่งก็เป็นที่น่าสนใจว่าสถิติการใช้งานอินเตอร์เน็ทบนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นนั้นสอดคล้องกับการเข้ามาของ 4G ด้วยเพราะการเชื่อมต่อที่เร็วกว่าก็ทำให้เราใช้งานได้มากกว่านั่นเอง โดยในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ 4G ในปี 2014 มีฐานผู้ใช้งานอยู่ที่ 2.7ล้านคน แต่พอมาถึงช่วงสิ้นปีเดียวกันกลับมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 23.6ล้านคน และโดยเฉลี่ยแล้วชาวอังกฤษจะใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ราว 20ชม. 30นาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2005 ที่ค่าเฉลี่ยการใช้งานเพียง 10ชม.

แต่แม้สมาร์ทโฟนจะเป็นคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ของพวกเราในวันนี้แต่ความเป็นไปได้ที่หลากหลายของเทคโนโลยีก็ได้เผยว่าในอนาคตเราอาจจะมีคอมพิวเตอร์ที่แนบชิดติดตัวมากขึ้นอย่างพวก Hololens หรือ wearable computer ที่เริ่มมีออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว เชื่อว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ประกอบกับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ทที่ง่ายขึ้นพร้อมกับการสนับสนุนจากาครัฐก็น่าจะทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยในการใช้ชีวิตของเราให้ล้ำและสะดวกสบายกว่าเคย แต่ทั้งนี้เราก็ต้องใช้อย่างพอดีและพอเหมาะด้วยนะคะ

 

 
Source : wired , manager.co.th