ปัจจุบันเป็นยุคที่ใครๆ ก็หันมาให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือกอย่างเช่นพลังงานแสงอาทิตย์เพราะนอกจากจะเป็นพลังงานสะอาด รักโลกที่ใช้ได้ไม่มีวันหมดแล้วด้านราคาก็ถูกกว่าด้วย แต่กระนั้นการที่จะสามารถรับและแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ได้มากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดตัวแผงโซล่าเซลล์เป็นหลักค่ะ

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2006 Lyndon และ Peter Rive ก็ได้ก่อตั้งโครงการ SolarCity หรือโปรเจคพลังงานทดแทนเพื่อโลกที่ภายใต้ความร่วมมือกับญาติของพวกเขา Elon Musk CEO ของ  Tesla ผู้ที่สนใจทำงานด้านพลังงานทางเลือกและโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์

โดย SolarCity จะครอบคลุมตั้งแต่บริการออกแบบ, ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์, ดูแลตรวจสอบประสิทธิภาพพลังงานและบริการสร้างสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานและรักโลกแล้วก็ยังตอบโจทย์ของธุรกิจ Tesla โดยตรงด้วย

ล่าสุด SolarCity ก็ได้ออกมาประกาศความสำเร็จอีกขั้นกับการสร้างแผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก มีประสิทธิภาพ 22 เปอเซนต์ต่อหน่วยซึ่งสูงกว่าของคู่แข่งอย่าง SunPower ที่มีประสิทธิภาพ 21.5 เปอเซนต์ต่อหน่วย


ทั้งนี้แม้จะเป็นที่รู้กันว่าการที่จะให้ได้แผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้นจะต้องแลกมากับการใช้วัสดุและกระบวนการผลิตแผงโซล่าเซลล์ที่มีราคาแพงขึ้นแต่ทาง SolarCity กลับออกมาลบความเชื่อนี้โดยสร้างแผงโซล่าเซลล์จากกระบวนการผลิตพิเศษที่เป็นสิทธิบัตรของทางค่าย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแผงแล้วยังมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการผลิตคุณภาพสูงบนแผงโซล่าเซลล์ขนาดเท่าๆ กันของค่ายอื่นด้วยการเพิ่มโมดูลเข้าไปจากเดิม 30 – 40 ต่อแผง

ซึ่งตอนนี้ SolarCity ก็กำลังให้ทาง RETC หรือศูนย์ทดสอบมาตรฐานพลังงานหมุนเวียนทดสอบแผงโซล่าเซลล์ของตนว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ก่อนจะเริ่มติดตั้งแผงโซล่าเซลล์นี้บนหลังคาบ้านเรือนและที่จอดรถก่อนที่จะขยายไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยคากว่าหลังย้ายฐานการผลิตไปยังนิวยอร์กจะสามารถผลิตแผงโซล่าเซล์นี้ได้มากถึง 9,000 หรือ 10,000 แผงต่อวันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องการให้ผู้คนสามารถเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้นด้วยการร่วมมือกับ Everyday Energy ผู้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในการลดค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย พร้อมกันนี้ยังจะไปร่วมมือกับผู้จัดทำที่อยู่อาศัยในราคาไม่แพงมากนักหลายๆ แห่งในแคลิฟอเนียด้วยเช่นกัน

 

Source: techcrunch