สมาร์ทโฟนถ้าใช้ผิดอาจทำชีวิตเปลี่ยน!
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่าการเสพติดมือถือมากๆ นั้นเป็นอันตรายจนถึงขั้นอาจก่อมะเร็งได้เลยทีเดียว ซึ่งแม้ฟังแล้วจะขยาดอยู่ไม่น้อยแต่มันก็ต้องใช้นี่คะ ให้ทำยังไง หรือบางคนก็ออกมาเถียงว่าไม่จริง ใช้ได้ไม่มีผลอะไร แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตามมันก็เป็นปลระยะยาวที่ไม่น่าเป็นห่วงเท่าผลระยะสั้นที่อาจจะเกิดขึ้นและอาจนำไปสู่เหตุที่ร้ายแรงกว่า!!!
การติดมือถือ
เดี๋ยวนี้เราติดมือถือกันจนแทบจะแยกจากกันไม่ได้แล้วนะ มีผลสำรวจในปี 2015 จาก Pew Research Center เผยว่ามีการใช้สมาร์ทโฟนในอเมริกา 64% และมี 19% ที่ติดมือถือและการเข้าสู่โลกออนไลน์ขั้นหนัก พร้อมกันนี้ผลสำรวจยังเผยอีกว่าผู้ปกครอง 27% และ วัยรุ่นอีก 59% ยอมรับว่าเสพติดมือถือ
รายงานจาก The Common Sense Media ยังชี้อีกว่า 36% ของผู้ปกครองและเด็กๆ มักทะเลาะกันเพราะการใช้มือถือในชีวิตประจำวันที่มากเกินไป เพราะพบว่า 78% ของเด็กวัยรุ่นนั้นต้องคอยเช็คมือถือของตนทุกๆ ทั่วโมง
นอกจากที่จะลดความสัมพันธ์อันดีกับคนใกล้ชิด เสียทักษะในการเข้าสังคมและเสียการโฟกัสกับสิ่งต่างๆ แล้วมันยังนำมาซึ่งหลากหลายปัญหาสุขภาพอย่างเราๆ อาจจะคิดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนิ้วล็อค การใช้ประสาทสายตามากเกินควร ไปจนถึงท่าการใช้งานที่ผิดที่อาจส่งผลในระยะยาวได้
ขับไปแชทไป
อันนี้อันตรายกว่ามะเร็งค่ะพูดเลย เพราะแค่วินาทีเดียวที่เราก้มลงไปพิมพ์ หรือดูแชท ช่วงวินาทีที่เราละสายตาและมือจากพวงมาลัยก็อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นการชนรถคันหน้า ฝ่าไฟแดง ไปจนถึงชนคนที่ใช้ท้องถนนอยู่ ดังนั้น! ต้องระมันระวังให้มากนะคะ!! ไม่ว่าอะไรมันจะเด้งขึ้นมาบนมือถือระหว่างขับรถจงจำไว้ว่ามันไม่สำคัญเท่าชีวิตของคุณหรือเพื่อนร่วมทางหรอกค่ะ “IT CAN WAIT.”
Selfies
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ชอบ selfie อวดความชิค อัพเดตชีวิตประจำวันกัน ถ้าจะ selfie ปกติก็ไม่เท่าหร่หรอกค่ะ แต่ว่าหลายๆ คนชอบ selfie ท่าแผลงๆ ตามเทรนเพื่อให้เป็นที่สนใจ บางคนดูแต่จอลืมดูทางพลัดตกบันไดขาหักไปก็มี หรือบางคนไป selfie บนริมตึกสูงแล้วตกลงมาเสียชีวิตจากการ selfie ก็มากมายจนถึงขั้นหลายๆ เมืองต้องออกมาแบนการ selfie กันเลยทีเดียว
และไม่เพียงแต่การแบน selfie นะ ไม้ selfie ก็ถูกแบนไปในหลายๆ ที่เช่นกัน ด้วยเหตุที่นอกจากจะรบกวนคนอื่นๆ แล้วมันยังไปจิ้มหน้า ฟาดหัวคนอื่นๆ รวมถึงอาจฟาดไปโดนงานศิลปะหรือของอื่นๆ เสียหายได้อีกด้วย
ที่พูดมาเนี่ยไม่ได้ห้าม selfie นะคะ แต่ขอให้ selfie อย่างปลอดภัยและใส่ใจส่วนรวมด้วยเนาะ
อี๊ เชื้อโรค!
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนมากแล้วย่อมไม่ถูกกับน้ำ มือถือส่วนใหญ่ในตลาดของเราก็เช่นกันเพราะเมื่อไม่มีฟีเจอร์กันน้ำจะเอาไปล้างทำความสะอาดก็ยากอยู่ และก็มีน้อยคนมากที่จะซื้อน้ำยาหรือผ้าเปียกสำหรับเอามาทำความสะอาดมือถือย่างเป็นเรื่องเป็นราวเป็นกิจวัตร
แล้วรู้หรือไม่ว่ามือถือที่เราใช้แนบหน้าคุย วางไว้ข้างหมอนทุกคืนนั้นสกปรกจนอาจก่อให้เกิดสิวได้เลยนะ! นอกจากนี้ยังมีผลวิจัยจากนักวิจัยอังกฤษเผยว่าโทรศัพท์มือถือที่สำรวจนั้น 1 ใน 4 จะมีแบคทีเรียมากกว่าระดับที่กำหนด 10 เท่าและมากกว่าที่กดชักโครกในห้องน้ำชายเฉลี่ยถึง 18 เท่าเลยทีเดียว!!!
นอนไม่หลับกระสับกระส่าย
ถ้าคุณอ่านจาก tablet หรือหน้าจอ smartphone ก่อนนอนนั้นนอกจากจะเสียสายตาเพราะต้องเพ่งในที่แสงน้อยแล้ว แสงจากหน้าจอยังขัดจังหวะ sleep cycle ทำให้นอนหลับช้าลงกว่าปกติเพราะเป็นผลมาจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอ smart device ที่เป็นแสงที่เลียนแบบแสงของดวงอาทิตย์ทำให้สมองของเราเข้าใจว่ายังเป็นตอนกลางวันอยู่ และแสงสีฟ้านี้เองที่ระงับการผลิตสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับค่ะ
ทั้งยังลดเวลาการนอนในช่วงหลังลึกที่สมองจัดจัดระเบียบข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้เกิดเป็นความทรงจำและความเข้าใจลดลงไปราว 10 นาทีอีกด้วยนะ ซึ่งผลจากการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นก็อันตรายกว่าที่คิดเพราะว่านอกจากจะทำให้เราไม่สดชื่นในเช้าวันใหม่ มึนเบลอแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาอีกมากมาย เช่น โรคเบาหวาน และโรคอ้วนเป็นต้น
เห็นไหม สมาร์ทโฟนถ้าใช้ไม่ดีไม่ถูกที่ถูกเวลาก็ก่อผลเสียได้มากมายกว่าที่คิด แต่ละอย่างๆ นี่อันตรายๆ ทั้งนั้นเลยนะ
Source: mashable