ยุคดิจิตอลแบบนี้เป็นยุคที่เราต้องคอยรับมือและปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างตอนนี้เรากำลังอยู่ในยุคของ Mobile First ยุคที่ทุกอย่างทำได้ง่ายๆ ผ่านบนสมาร์ทโฟนและไม่ได้จำกัดอยู่แค่การติดต่อสื่อสารเพราะเมื่อเรามีอินเตอร์เน็ตบนมือถือเราจึงใช้งานกว้างขึ้นและครอบคลุมไปถึงเรื่องการทำงาน การเสพข่าวสาร ไปยันการจับจ่าย แต่เทรนยังไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ ค่ะ เพราะเมื่อประชากรบนโลกเข้าถึงสมาร์ทโฟนและเน็ตได้ง่ายขึ้นมาก ทั้งจากมาตรการการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านอินเตอร์เน็ตของภาครัฐ และราคามือถือที่ย่อมเยาขึ้นก็เลยเป็นการปูทางสู่เทรนใหม่อย่าง AI First

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ AI กันแบบคร่าวๆ ก่อนเนาะ AI คือปัญญาประดิษฐ์ คือที่เราไปทำให้สิ่งที่ไม่มีชีวิตมีความฉลาดเหมือนกับคน ซึ่งก็มีตั้งแต่การป้อนข้อมูลเพื่อให้มันใช้เปรียบเทียบและตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไรในสถาณการณ์ต่างๆ อย่าง หุ่น AlphaGo ที่เล่นเกมหมากรุกชนะแชมป์โลก ไปจนถึง AI ที่สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ เช่น AI ที่สามารถแต่งนิยายได้เป็นต้น

พูดแบบนี้อาจจะดูไกลตัวไปซักหน่อย แต่ถ้าบอกว่า AI คือเวลาที่ Facebook Tag ที่มักคอยเสนอชื่อเพื่อนที่อยู่ในภาพเวลาที่เราอัพรูป, ผู้ช่วยบนมือถือที่คอยหาข้อมูลให้เราอย่าง Siri หรือ Google Assistant ไปจนถึงรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนได้แบบไม่ต้องใช้คน … เหล่านี้คือ AI ทั้งนั้น เห็นไหมคะว่าไม่ได้ไกลตัวเลย

ช่วงงาน Google i/o 2017 ที่ผ่านมาเองทางบริษัทเทคโนโลยียักษย์ใหญ่ของโลกอย่าง Google ก็ออกมาสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ยุค AI First พร้อมโชว์เทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอยู่ซึ่งก็ล้วนไปตอบโจทย์เรื่องนี้กันทั้งหมดทำให้เราเห็นภาพของยุค AI First ได้ชัดขึ้น และรู้ได้เลยว่ามันกำลังเข้ามาใกล้ตัวมากขึ้นทุกทีแล้ว

อย่างแรกเลยที่ทาง Google เขานำเสนอก็คือเรื่องของ Google Lens หรือ AI ที่สามารถวิเคราะห์และเข้าใจภาพถ่ายจากกล้อง หรือภาพที่เรามีเก็บไว้ในเครื่องได้ ยกตัวอย่างเช่น เราไปเห็นดอกไม้สวยๆ ที่เราไม่รู้จักแต่เกิดอยากรู้ชื่อ แค่หยิบมือถือมาแชะภาพเอาไว้ จากนั้นเจ้า Google Lens ก็จะไปทำการค้นหาชื่อของดอกไม้พร้อมรายละเอียดอื่นๆ มาให้ได้ทันที ซึ่งอันนี้จะทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะบนมือถืออย่าง Google Assistant ที่ทาง Google บอกมาว่ามีความแม่นยำสูงขึ้นมากและแม่นยำกว่ามนุษย์อีกด้วยซ้ำนะ!

แม้ว่า AI First จะเริ่มจากมือถือแต่แน่นอนค่ะว่ามันจะไม่ได้หยุดแค่นั้นแน่ เพราะว่ามันได้ขยายไปครอบคลุมถึงบ้านของเราด้วย อย่างในงาน i/o เองทาง Google ก็โชว์ความสามารถของ Google Home ลำโพงอัจฉริยะที่ฝังผู้ช่วย Google Assistant มาในตัวพร้อมความสามารถเจ๋งๆ มากมาย เช่น การสั่งงานด้วยเสียงเพื่อโทรออก แม้จะฟังดูธรรมดาแต่ที่เจ๋งคือมันแยกแยะเสียงของผู้สั่งได้ว่าใครในบ้านเป็นคนสั่งงานอยู่และไปเรียกเบอร์โทรจากรายชื่อในเครื่องของคนที่สั่งงานมาโทรออกให้ได้ทันทีเลย!

นี่แค่ความสามารถบางส่วนของ AI ก็ทำให้เราได้เห็นภาพเป็นไปได้ และความสะดวกสบายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่ตื่นตัวในเรื่องนี้เพราะบริษัทไอทีทั้งหลายก็เช่นกันค่ะ เชื่อว่าในช่วง 2-3 ปีนี้เราน่าจะได้เห็นความคึกคักของแวดวง AI ที่จะเข้ามาใกล้ตัวและมีส่วนในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นแน่นอน .. แล้วทุกคนหละคะ พร้อมสำหรับยุค AI First หรือยัง?  :]