Image Image Image Image Image Image Image Image Image Image

Kawizara | January 8, 2025

Scroll to top

Top

Lifestyle

SRS-LSR100 รีโมทพร้อมลำโพงให้ติดตามฟังรายการโปรดได้แม้ไม่ได้อยู่หน้าทีวี

September 4, 2015 |

โซนี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายผู้ผลิตเทคโนโลยีที่มักจะมีของเล่นใหม่ๆ น่าสนใจๆ มานำเสนอกันอย่างต่อเนื่องนะคะ อย่างก่อนหน้านี้ก็มีนาฬิกาที่เปลี่ยนลวดลายของสายได้เองตามใจผู้สวมใส่ล่าสุดก็ยังมีรีโมตทีวีแนวใหม่มาพร้อมความสามารถแบบ all in one อย่าง SRS-LSR100

แต่ว่าหน้าตาของเจ้ารีโมตนี้อาจจะไม่ได้เหมือนกับรีโมททีวีที่เราคุ้นเคยกัน โดยจะมาพร้อมหน้าตาเหมือนกล่องขนาดย่อมๆ ที่มีรีโมตวางอยู่ด้านบนส่วนด้านล่างเป็นลำโพงเพราะความสามารถของรีโมตนี้นอกจากจะใช้เปลี่ยนช่องทีวีได้ตามปกติแล้วยังสามารถทำหน้าที่เป็นเป็นลำโพงไร้สายได้อีกด้วย

โดยไอเดียที่มาของเจ้ารีโมตหน้าตาแปลกใหม่นี้มาจากการที่บ่อยครั้งเวลาที่เราดูทีวี เราไม่ได้อยู่หน้าทีวีเสมอไป อาจจะต้องเดินไปทำงานบ้าน ล้างจานในครัว แต่ก็ยังติดพันอยากได้ยินเสียงของรายการโปรดหรือติดตามละครตอนจบ SRS-LSR100 จึงเป็นทางออกให้เราสามารถยกไปไหนต่อไหนพร้อมฟังเสียงทีวีแบบ real time ไปด้วย

ส่วนด้านการใช้งานนั้นรีโมตนี้จะเชื่อมต่อกับทีวีผ่านตัวรับสัญญาณไร้สายที่ต้องต่อไว้กับทีวี มาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 16 ชั่วโมง

สำหรับใครที่สนใจ SRS-LSR100 จะเปิดขายอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นในวันที่ 12 กันยายนนี้ที่สนนราคาราว 6,000 บาทค่ะ

 

Source : theverge

Read More

วีดีโอบน Facebook ถูกกล่าวหาว่าผิดลิขสิทธิ์และละเมิดเจ้าของผลงาน

August 29, 2015 |

เดี๋ยวนี้ facebook กลายเป็นหนึ่งในสื่ออนไลน์ที่มีผู้เสพจากทั่วโลก จึงไม่น่าแปลกจากสถิติต่างๆ จะชี้ไปว่ามีการดูวิดีโอจากบนหน้า Facebook เพิ่มสูงมากขึ้นด้วย และเมื่อเป็นเช่นนี้ทาง Facebook เองก็จึงพยายามเข็นฟีเจอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับวีดีโอออกมา ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบให้ดาราสตรีมวิดีโอสดผ่านหน้า feed, การทดสอบบริการโฆษณาจากการดูวิดีโอ ไปจนถึงขึ้นแถบแจ้งเตือนตอนโพสต์ลิงก์ YouTube ให้อัพโหลดขึ้นเฟซบุ๊คโดยตรงแทน ซึ่งก็ชัดเจนว่าทางค่ายตั้งใจจะใช้ฟีเจอร์นี้มาชนกับ Youtube โดยตรง

นอกจากนี้ทาง Facebook ก็ยังออกมากล่าวถึงสถิติที่ชี้ว่าการวิดีโอที่อัพโหลดใน Facebook นั้น มียอดคนดูสูงกว่าวีดีโอที่อัพโหลดขึ้น YouTube มีสถิติคนเข้าชมมากถึง 4 พันล้านครั้งต่อวัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผู้สร้างวิดีโอใน YouTube สนใจที่จะหันมาอัพโหลดวิดีโอขึ้น Facebook แทน แถมดูเหมือนว่าการออกมาทำเช่นนี้จะยิ่งเรียกกระแสในแง่ลบให้ทางค่ายด้วย

ล่าสุด Hank … Read More

มอง Digital Divide มุมใหม่ ทำไมคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ทบนมือถือไม่ได้

August 29, 2015 |

เป็นเรื่องดีที่ปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้นกว่าเคย เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ติดตามข่าวสาร หรือจะใช้หาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เพราะเดี๋ยวนี้เราสามารถใช้อินเตอร์เน็ทได้จากอวัยวะชิ้นที่ 33อย่างสมาร์ทโฟน แต่ว่านั่นก็อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคนนะคะ เพราะยังมีหลายๆ คนที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ได้ ซึ่งความเหลื่อมล้ำแบบนี้เราอาจเรียกได้ว่า Digital Divide

ในยุคนี้มีตัวเลขที่น่าสนใจ 3ตัวที่จะทำให้เรามองเห็นภาพและเข้าใจคำว่า Digital Divide นั่นก็คือ 94, 50 และ 36

  • 94% คือตัวเลขของประชากรบนโลกที่สามารถเข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งถือว่าเป็นเลขที่เติบโตขึ้นมากอย่างไม่มีใครคาดถึงจากเมื่อ 15ปีที่แล้ว
  • 50% คือตัวเลขของประชากรบนโลกที่สามารถเข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ พร้อมทั้งสามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ทบนมือถือได้
  • 36% คือตัวเลขของประชากรโลกที่มีอินเตอร์เน็ทบนมือถือไว้ใช้งานหลังจากที่มีอินเตอร์เน็ทให้บริการบนมือถือมาราว … Read More

กฎเหล็กในการใช้อินเตอร์เน็ต 5ข้อ

August 29, 2015 |

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าพื้นที่บนโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น facebook, twitter หรือตามหน้าเว็บต่างๆ นั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะพิมพ์จะแสดงออกอย่างไรก็ได้ แต่จริงๆ แล้วพื้นที่บนโลกออนไลน์นั้นไม่เป็นส่วนตัวอย่างที่คิด เพราะไม่ว่าใครๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามหรืออ่านสิ่งเหล่านั้นได้ ยกตัวอย่างเช่นในรายการของ Ellen Show ที่เธอต้องการจะสื่อถึงประเด็นนี้ด้วยการเอารูปสุดน่าอายของผู้ชมในห้องส่งแต่ละคนมาแชร์ขึ้นหน้าจอทีวีเป็นต้น และถึงแม้คุณจะตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอย่างดีไม่ให้มีคนเข้าดูได้แต่นั้นก็ไม่ได้การันตีความปลอดภัยเสมอไป ซึ่งนี่ยังไม่รวมการเก็บข้อมูลต่างๆ บนโลกออนไลน์ไปจนถึงการโจรกรรมข้อมูล

อย่างก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มแฮกเกอร์ขู่ว่าจะเผยแพร่ข้อมูลของบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บหาชู้ Ashley Madison ที่มีสมาชิกกว่า 30ล้านบัญชี ซึ่งรวมหมดตั้งแต่ข้อมูลอีเมล, ที่อยู่, น้ำหนัก, ส่วนสูง, ข้อมูลรายการจ่ายเงิน และภาพนู้ด รวมไปถึงข้อความแชตต่างๆ ซึ่งหากปล่อยออกมาจริงๆ เชื่อว่าน่าจะนำไปสู่ปัญหาของหลายๆ ครอบครัวอย่างแน่นอนค่ะ … เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าสิ่งที่คิดว่าความลับบนโลกออนไลน์ไม่มีอยู่จริง ดังนั้นวันนี้เลยอยากเอากฎเหล็ก 5ข้อที่ต้องจำและทำบนโลกออนไลน์มาฝากกัน

Read More

ให้หุ่นยนต์ทำงานร้วมกันได้ด้วย macro-actions

August 26, 2015 |

ในปัจจุบันนี้เริ่มมีบริษัทหรือร้านค้าหลายๆ แห่งนำเอาโดรนหรือหุ่นยนต์ต่างๆ เข้ามาใช้ในการส่งของหรือการให้บริการด้านต่างๆ กันมากขึ้นนะคะ แต่กระนั้นก็ยังไม่ค่อยเห็นมีใครนำเอาหุ่นยนต์มากกว่าหนึ่งตัวมาใช้งานร่วมกันนั่นเป็นเพราะมีความซับซ้อนมากกว่าและอาจทำให้การทำงานขาดประสิทธิภาพ

แต่ว่าล่าสุดที่งาน Robotics Science and Systems ทางทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ของ MIT ได้นำเสนอระบบใหม่อย่าง “macro-actions” ที่จะเข้ามาช่วยให้หุ่นยนต์มากกว่าหนึ่งตัวทำงานสอดคล้องกันได้รวดเร็ว แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่สำคัญยังสามารถปฏิบัติงานได้แม้จะเจอสภาพแวดล้อมที่เหนือการคาดเดาอีกด้วย

โดยอัลกอลิทึ่มแบบใหม่นี้จะเข้ามาช่วยให้หุ่นยนต์ทั้ง 3ตัวนั้นสามารถทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นร่วมกันได้ นอกจากจะเน้นไปที่การแก้ปัญหาทั่วไปที่พบในหุ่นยนต์อย่างเรื่องของเซ็นเซอร์ระบุตำแหน่งทั้งของตัวมันเองและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ที่อาจคลาดเคลื่อนทำให้หุ่นยนต์ต้องใช้เวลานานทำงานกว่าที่ควร หรือด้านการสื่อสารระหว่างหุนยนต์ด้วยกันที่ยังมีข้อจำกัดด้านระยะห่างเพราะหากอยู่ไกลเกินไปก็จะไม่สามารถติดต่อกันได้แล้วยังต้องรับมือกับเรื่องของความไม่แน่นอนอีกด้วย

ทั้งนี้ทางทีมผู้พัฒนาได้จำลองห้องทดลองเป็นบาร์ขนาดย่อมพร้อมนำหุ่นยนต์ 3ตัวมาเข้าร่วมในการทดลองนี้ 1ในนั้นคือ PR2 หรือหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ ส่วนอีก 2ตัวนั้นเป็นหุ่นยนต์ Turtlebot หุ่นยนต์เสริฟ 4ล้อที่จะทำหน้าที่คอยเดินรับออเดอร์จากผู้คนตามโต๊ะต่างๆ ซึ่งนอกจากการรับออร์เดอร์แล้วพวกมันยังต้องคิดเผื่อถึงว่าหุ่นยนต์อีกตัวจะมาเสริฟเครื่องดื่มเมื่อไหร่เพื่อที่จะได้จัดรายการสั่งซื้อและคิวเสริฟต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านวิธีการแก้ปัญหาเรื่องความไม่แน่นอนนี้ก็คือโปรแกรมหุ่นยนต์ให้ทำงานต่างๆ เหมือนมนุษย์ มนุษย์ไม่คิดว่าเราจะต้องก้าวกี่ก้าว … Read More

หุ่นยนต์จะไว้ในมนุษย์ได้หรือไม่?

August 26, 2015 |

แม้หลายๆ คนจะแสดงความกังวลว่าเราจะไว้ใจหุ่นยนต์ได้แค่ไหน แต่ก็ยังมีความกังวลในมุมกลับกันว่าแล้วหุ่นยนต์หละจะไว้ในมนุษย์ได้หรือไม่?

อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการทดสอบร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์และมหาวิทยาลัยไรเออร์สันด้วยการส่งเจ้า Hitchbot หุ่นนักเดินทางที่มีจุดหมายจะข้ามทวีปแคนาดา สหรัฐฯ เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ทโดยอาศัยการขอโบกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยหากมีคนใจดีรับขึ้นรถระหว่างทางจะคอยเป็นเพื่อนพูดคุย เต้น ร้องเพลง หรือเล่นเกมส์ตอบคำถามกับคนขับไปตลอดทางจนถึงที่หมาย นอกจากนี้มันยังจะรายงานความคืบหน้าในการเดินทางผ่านทาง twitter เป็นระยะๆ ได้อีกด้วย ซึ่งวัตถุประสงค์ของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้คือเพื่อต้องการทดสอบน้ำใจของมนุษย์

แต่น่าเสียดายที่ออกเดินทางได้ไม่นานก็มีคนพบว่าเจ้าหุ่นที่ว่านี้ถูกจับแยกชิ้นส่วนนอนแน่นิ่งอยู่ข้างทางในเมืองฟิลาเดลเฟียเสียแล้ว พร้อม tweet ข้อความสุดท้ายไว้ว่า “Oh dear, my body was damaged, but I live on with all my friends. Sometimes bad … Read More

บริษัทไอทีร่วมกับ IWF หยุดสื่อลามกเด็กบนโลกออนไลน์

August 26, 2015 |

บรรดาบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั้ง Facebook, Google, Microsoft, Yahoo และ Twitter จับมือกับมูลนิธิ Internet Watch Foundation (IWF) ของสหราชอาณาจักรเพื่อร่วมกันหยุดสื่อลามกเด็กบนโลกออนไลน์

โดยทาง IWF จะใช้ระบบตรวจจับและบล็อกภาพที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศรวมถึงสื่อลามกเด็กต่างๆ จาก hashes หรือข้อมูลแทนตัวที่เกิดจากการเอาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาผ่านกระบวนการเพื่อย่อยข้อมูลก่อนที่จะทำการเข้ารหัส ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งนี่ก็เป็นเสมือนการแกะรอยนิ้วมือของอาชญากรบนโลกออนไลน์ โดยจะเริ่มวางระบบสำหรับตรวจสอบภาพที่ถูกอัพโหลดขึ้นไปยัง 5 สื่อไอทีเจ้าหลักก่อนที่จะขยายไปยังแหล่งอื่นๆ ต่อไป

และเมื่อระบบตรวจจับเจอภาพที่ไม่เหมาะสมมันจะไม่ให้เกิดการอัพโหลดภาพนั้นๆ หรือการแชร์บนโลกออนไลน์ทันที โดยตอนนี้ IWF คาดการณ์ว่าระบบนี้จะสามารถลบหน้าเว็บที่มีสื่อลามกเด็กได้ถึง 500เว็บต่อวัน

ซึ่งแม้ระบบนี้จะดีแต่ก็อาจจะยังไม่ครอบคลุมมากพอเพราะนอกจากจะสามารถตรวจจับได้แค่ภาพไม่รวมถึงคลิปวีดีโอต่างๆ แล้วในอีกด้านหนึ่งภาพลามกเด็กนั้นมีการเผยแพร่และส่งต่อมากกว่าแค่ในหน้าเว็บไซต์หลักๆ แต่ยังรวมถึงเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ Peer-to-Peer ที่เป็นการเชื่อมต่อแลนแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และการเข้าเว็บไซต์แบบไม่ระบุตัวตนตามช่องทางอื่นๆ … Read More

เยอรมันชี้นโยบายบังคับให้ใช้ชื่อจริงของ Facebook นั้นละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

August 13, 2015 |

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทาง Facebook ออกนโยบายให้ผู้ใช้งานทุกคนเปลี่ยนมาใช้ชื่อจริงใน Facebook ด้วยเหตุผลเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมออนไลน์ ทั้งเป็นการจำกัดบัญชีผู้ใช้งานหนึ่งคนต่อหนึ่งบัญชี และยังเป็นการระบุตัวเจ้าของที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนและจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการหลอกลวงหรือการโกงในสังคมออนไลน์ได้อีกด้วย

แต่กระนั้นในข้อบังคับนี้เองก็ยังมีความไม่เห็นด้วยจากหลายๆ ฝ่ายเพราะบางคนก็มีชื่อในวงการที่เป็นที่รู้จักกันดีแต่ไม่ตรงกับชื่อจริง หรือในบางกรณีบางคนก็อาจใช้สื่อนี้เป็นที่หลีกหนีหรือที่ระบาย เช่น คนที่เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด และที่บ้านไม่รับรู้เป็นต้น

ล่าหน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยของข้อมูลและควบคุมการใช้งาน Facebook ในเยอรมันอย่าง The Hamburg data protection authority ได้ออกมาประกาศชัดแล้วว่านโยบายดังกล่าวของ Facebook ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ซึ่งนอกจากที่ Facebook จะไม่มีสิทธิบังคับให้ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่อจริงแล้วยังห้ามไม่ให้ Facebook ขอหลักฐานการแสดงตัวตน อย่างเช่น บัตรประชาชน หรือไปเปลี่ยนชื่อบัญชีโดยที่ผู้ใช้งานไม่ยินยอมด้วย

ซึ่งที่มาของเรื่องนี้ก็มาจากการที่มีผู้หญิงคนหนึ่งไปร้องเรียนหลังถูก Facebook ระงับการเข้าใช้บัญชีเนื่องจากไม่ได้ใช้ชื่อจริง พร้อมทั้งขอให้เธอส่งหลักฐานยืนยันตัวตนและยังเปลี่ยนชื่อบัญชีผู้ใช้งานของเธอโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมนั่นเองค่ะ

ส่วนทางด้าน Facebook เองก็ออกมาแสดงความผิดหวังกับข้อบังคับดังกล่าวพร้อมกล่าวว่านโยบายการใช้ชื่อจริงนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทั้งยังเป็นการเพิ่มความปลอดให้ผู้ใช้งานได้รู้ว่ากำลังติดต่อพูดคุยกับใคร

Read More

ชาวอเมริกา 15% ยังคง offline

August 13, 2015 |

แม้ทุกวันนี้รัฐบาลในหลายๆ ประเทศรวมถึงอเมริกาจะสนับสนุนให้อินเตอร์เน็ทกลายเป็นหนึ่งในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ กระนั้นกลับมีผู้ใหญ่ชาวอเมริกันราว 15% ที่ยังไม่เริ่มใช้งานอินเตอร์เน็ท ซึ่งแม้จะเป็นสัดส่วนที่ลดลงมากจากในปี 2000 ที่มีผลสำรวจจากทาง Pew Research Center ว่าประชากรชาวอเมริกันเกือบครึ่งประเทศหรือ 48%นั้นอยู่ในโลกออฟไลน์แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจไม่ใช่น้อยว่าในยุคที่ device ราคาถูก มีอินเตอร์เน็ทฟรีแบบนี้ทำไมคนบางส่วนถึงยังเลือกที่จะออฟไลน์

ผลสำรวจพบว่า 34% ของคนกลุ่มนี้ไม่คิดว่าอินเตอร์เน็ทจะมามีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขาได้อย่างไรหรือไม่เข้าใจว่าจะใช้ไปทำไมนั่นเอง ส่วนอีก 32% บอกว่าการหัดใช้งานอินเตอร์เน็ทนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากจึงเลือกที่จะไม่ใช้ อีก 8% บอกว่าพวกเขาแก่เกินที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ และมีบางส่วนที่บอกว่าจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตและค่า device ไม่ไหว

ซึ่งการสำรวจนี้ยังพบว่าคนที่ไม่ใช้อินเตอร์เน็ทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โดยมีอัตราส่วนของผู้สูงอายุตั้งแต่ 65ปีขึ้นไปออฟไลน์ถึง 39% ซึ่งสูงกว่ากลุ่มคนวัย 18-29 ปีที่ออฟไลน์เพียงแค่ 3% มากทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่การสำรวจนี้อ้างถึงทั้งระดับการศึกษา … Read More

สถิติเผยยอดคนใช้อินเตอร์เน็ทบนสมาร์ทโฟนแซงหน้าทุกอุปกรณ์ไปไกลแล้ว

August 13, 2015 |

เมื่อก่อนถ้าเราพูดถึงเทคโนโลยีใกล้ๆ ตัว ใครๆ ก็คงคิดถึงคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป ซึ่งบิล เกตส์เองก็เคยบอกไว้ว่าวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ตั้งแต่ปี 1975 นั้นก็คือการให้ทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานกัน เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนั้นก็กลายเป็นจริงเพราะด้วยวิธีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีไปอย่างรวดเร็วและราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทำให้ปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครๆ ก็มีคอมพิวเตอร์พกติดตัวกันทั้งนั้น ต่างไปแค่ว่านิยาม “คอมพิวเตอร์” ของคนในยุคนี้อาจจะเปลี่ยนไปสักหน่อยเพราะเดี๋ยวนี้เราอาจเทียบสามาร์ทโฟนได้กับคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ เพราะสมาร์ทโฟนถูกพัฒนามาให้ฉลาดมากขึ้น มีสามารถที่หลากหลายขึ้นจนใช้งานได้ไม่แพ้คอมพิวเตอร์ ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องงานและการใช้ส่วนตัวจึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ก็มีไว้ครอบครอง และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกถ้าหากยอดขายของสมาร์ทโฟนจะพุ่งสูงแซงยอดขายของแล็ปท็อปด้วยเช่นกัน

จากผลการสำรวจในเอเชียระหว่างปี 2010-2014 เองก็พบว่าความนิยมของแล็ปท็อปนั้นลดลงแต่กลับถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยช่วง 4 ปีที่ผ่านมายอดขายสมาร์ทโฟนโตขึ้นถึง 1,220% หรือขายได้กว่า 13,331,017 ยูนิตเลยทีเดียว ในขณะที่ยอดขายของ PC และแล็ปท็อปกลับเพิ่มขึ้นเพียง 28%  เท่านั้น พร้อมกันนี้ผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในไทยก็พบว่าใช้สมาร์ทโฟนกันมากเป็นอันดับหนึ่งถึง 70% ส่วนแล็ปท็อปตัวนั้นอยูที่สัดส่วนเพียง 13%

และเมื่อเรามีอุปกรณ์ที่พกติดตัวได้ ใช้งานง่ายประกอบกับอินเตอร์เน็ทที่ราคาถูกลงและครอบคลุมมากขึ้นก็จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อัตราการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ทจากสมาร์ทโฟนจะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็สอดคล้องกับผลสำรวจจาก … Read More

Qualcomm เตรียมส่งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้สายลงตลาด

August 9, 2015 |

เดี๋ยวนี้เราหันมาใส่ใจเรื่องพลังงานทางเลือกมากขึ้น อย่างรถยนต์เองเดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนจากการใช้พลังงานสิ้นเปลืองที่ก่อให้เกิดก๊าซพิษอย่างน้ำมันมาเป็นการใชัพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดกันมากขึ้น อย่างที่เราได้เคยเสนอเรื่องการสร้างโรงงาน Gigafactory ของ Tesla แต่กระนั้นแม้รถยนต์ไฟฟ้าจะรักโลกแต่เราก็ยังไม่คนใช้รถแบบนี้กันอย่างแพร่หลายนัก ประเด็นหลักๆ อาจจะเป็นเพราะขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จต่างจากปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วไปบนท้องถนน

ก่อนหน้านี้ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์อย่าง BMW ก็เคยได้เปิดตัแนวคิดที่จะดัดแปลงเสาไฟบนถนนที่มีอยู่เดิมให้เป็นจุดจอดเพื่อเสียบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากจะใช้งบประมาณไม่มากและขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ได้ไม่ยากแล้วแล้วยังช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเดินทางระยะไกลได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางทางอีกด้วย โดยการชาร์จนี้ต้องใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการชาร์จและการชำระค่าไฟ ระหว่างการชาร์จเจ้าของรถก็แค่นั่งรออยู่บนรถจนกว่าจะมีข้อความแจ้งเตือนบนหน้าแอพพลิเคชั่นว่าไฟเต็มแล้ว

แต่ว่าล่าสุดล้ำกว่านั้นค่ะ เมื่อทาง Qualcomm บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีการชาร์จกำลังพัฒนาการชาร์จแบบไร้สายให้กับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Halo ซึ่งเป็นการชาร์จประจุไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำ เปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้เป็นสนามแม่เหล็กแล้วแผ่ออกไปบนแผ่นเพลตและใช้การเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยตรง ทั้งนี้เขาจะทำโดยการฝังแผ่นเพลตตัวชาร์จไว้บนพื้นลานจอดรถแบบ park-to-charge งานนี้แค่ขับรถไปจอดไว้ในลานจอดที่รองรับเทคโนโลยีดังกล่าวมันก็จะชาร์จรถให้ทันทีขณะที่เราลงไปทำธุระต่างๆ เมื่อกลับมาที่รถก็พร้อมออกเดินทางได้ทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลารอ

ตอนนี้ทางค่ายเริ่มทดลอง Halo กับรถที่ใช้ในการแข่งขัน Formula E หรือการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ทดลองใช้ในวงกว้าง นอกจากนี้ทาง Qualcomm … Read More

ยักษ์ใหญ่วงการไอทีลงนามช่วยกันลดโลกร้อน

August 8, 2015 |

เพราะโลกคือบ้านของทุกๆ คนและทุกๆ ภาคส่วนควรที่จะต้องออกมาช่วยกันดูแลโลกไม่ใช่แค่เพื่อความเป็นอยู่ของคนยุคเราแต่ยังรวมไปถึงการวางรากฐานที่ยั่งยืนให้กับยุคของลูกหลานด้วย ล่าสุดบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั้ง Apple, Microsoft, Google และบริษัทอื่นๆ ได้ออกมาให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อร่วมผลักดันการลงมติในการประชุมระดับโลกเรื่องภาวะโลกร้อนที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ที่กรุงปารีส ซึ่งนี่ก็จะรวมไปถึงเรื่องการใช้พลังงานทดแทน, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ภาวะโลกร้อนหรือภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากการที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจกซึ่งมีต้นเหตุจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์ และคลอโรฟลูโรคาร์บอน ที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะหลังๆ ทั้งจากการทำลายป่าไม้ การขนส่ง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ผลก็คือทำให้เกิดความผกผันของกระแสอากาศโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรและเกิดภัยพิบัติธรรมชาติตามมามากมายซึ่งกระทบต่อผู้คนทั่วโลก

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหารือถึงมาตรการเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิปดีบารัค โอบามาที่วางเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจกของอเมริกาลงไปอยู่ที่ 26% ภายในปี 2025 ทั้งนี้บริษัทต่างๆ จะร่วมกันลงนามใน “American Business Act on Climate pledge” เพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้องให้มีมาตรการจัดการเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งทุกฝ่ายก็หวังว่าเสียสะท้อนจากทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลกเหล่านี้จะช่วยน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการประชุมดังกล่าวได้

ซึ่งนอกจากการลงนามความร่วมมือแล้วเหล่าบริษัทไอทียังได้มีข้อตกลงร่วมกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนลงอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากถึง 140 ล้านดอลล่าร์ และจะมีพลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นอีกกว่า … Read More